อัจฉริยะ จวก อนุทิน บริหารน้ำท่วมผิดพลาด เหน็บ บิ๊กต่าย ไม่ไปจัดการปัญหาเขต 8 มุ่งทำคอนเท้นต์ลุยน้ำ ชี้โยกขรก.เช่นน้ำท่วมเพียงหาแพะ
ข่าวสังคม - โซเชียล

อัจฉริยะ จวก อนุทิน บริหารน้ำท่วมผิดพลาด เหน็บ บิ๊กต่าย ไม่ไปจัดการปัญหาเขต 8 มุ่งทำคอนเท้นต์ลุยน้ำ ชี้โยกขรก.เช่นน้ำท่วมเพียงหาแพะ

วันที่ 28 พ.ย. 2568 ที่กรมสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) นายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงษ์ประธาน ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีน้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่าตามอำนาจหน้าที่ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั้นตามมาตรา6 ของกรมบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้นำเหล่าทัพต่างๆ ตามระเบียบต้องใช้ กรมบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นตัวบริหารจัดการ บริหารน้ำที่อำเภอหาดใหญ่แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญต่อประชาชน แต่ไปมอบสิทธิ์ให้กับผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บริหารเหตุการณ์และตัวเองก็ผัดข้าวผัดนั้น ตนมองว่าในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นเรื่อง ที่การบริหารราชการของรัฐบาลเกิดจากความผิดพลาด

แทนที่ช่วยกันระดมพลเข้าไปเก็บร่างผู้เสียชีวิตที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองเทาสาธารณภัย กับกลายเป็นว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีก็ลงพื้นที่ไปก็ยังไม่มีการสั่งการใดๆให้มีการเร่งเก็บผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ลงไปเมื่อวานนี้ ก็รู้อยู่แล้วว่ามีการยิงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในเขต 8หลายครั้ง ซึ่งตัวเองมีหน้าที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องสั่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษลงควบคู่กับกู้ภัยในการดูแลความปลอดภัย แต่กลับไปเดินทำคอนเทนต์ ไม่ได้มีเจตนาช่วยเหลือประชาชนจริง

วันนี้แทนที่จะมา ดูแลประชาชนหรือกู้ภัยที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ กลับมา มุ่งหวังเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเป็นหลัก และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ยังมีการผลักดันการเกษียณอายุราชการเพิ่มอีกห้าปีเป็นวาระเร่งด่วน เหมือนกับรับใบสั่งมาหรือไม่ในการที่จะให้ พล.ต.อ. กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการอีกห้าปี ถ้าเกษียณอายุราชการ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความน่าสงสัยและเป็นเหตุการณ์ที่แปลกในการบริหารจัดการของรัฐบาล

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ถ้าตนเป็นนายกรัฐมนตรีตนก็คงจะลาออก เพราะความชอบธรรมในการบริหาร จัดการบริหารน้ำท่วมถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง หากเป็นต่างประเทศคงลาออกไปแล้ว แต่วันนี้นายกคงยังไม่รู้สึกอะไรเพราะเป็นคนที่ไม่สนใจใคร

เมื่อถามถึงกรณีที่ย้ายข้าราชการในจังหวัดสงขลาในอำเภอหาดใหญ่นั้นมองว่าอย่างไร นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เป็นการหาแพะ เพราะตอนนี้นายกรัฐมนตรีไม่รู้ว่าจะย้ายใครก็ย้ายนายอำเภอหาดใหญ่ เพราะหากไปดูนั้นกฎหมายของกองบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติจะประกอบไปด้วยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงปลัดกระทรวงต่างๆ เพราะการย้ายผู้กำกับหาดใหญ่นั้นเป็นแพะซึ่งหากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงไปทำไมถึงไม่นำผู้บัญชาการภาคเก้าสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปใน พื้นที่เขต 8 แต่ไปถ่ายรูปทำคอนเทนท์นั้นไม่ใช่หน้าที่ นายกก็ไม่ใช่หน้าที่ไปผัดข้าว เพราะมีหน้าที่บริหาร จัดการตามกฎหมายจึงเข้ากำกับดูแลสถานการณ์ วันนี้ศพเต็มหาดใหญ่ตนอยากถามว่าใครรับผิดชอบอย่างไรกับชีวิตของประชาชน ตนก็เป็นคนใต้ก็ส่งเรือไป ช่วยเหลือจนสถานการณ์เริ่มลดลงแล้ววันนี้ก็จะมีการส่ง ต่อเรือไปยังจังหวัดสตูล นายกรัฐมนตรีเป็นนายกฯ แต่ไม่บริหารจัดการ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อสงสัยว่าในเขตแปดนั้นมีเรื่อง อิทธิพลเถื่อนด้วยหรือไม่นั้น นายอัจฉริยะกล่าวว่า มันก็ไม่มีใครเพราะทุกคนเก็บสวยหมดเลยเพราะภาคใต้ตำรวจมีการเก็บส่วย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาเป็นเมือง ที่เก็บส่วยมานานแล้ว อย่างที่ตนเคยอภิปรายไปที่คณะกรรมธิการความมั่นคงฯ ในเขตแปดทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นพื้นที่ของใครดังนั้นการย้ายผู้กำกับเมืองหาดใหญ่นั้น ตนมองว่าน้อยไป ทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดที่รับผิดชอบโดยตรงถึงไม่สั่งย้าย หรือนายกเทศมนตรีเมืองหาดใหญ่ที่รับประกันว่าไม่มีน้ำท่วม ถ้าจะเอาผิดก็เอาผิดได้ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีมาเลยจนถึงผู้นำเหล่าทัพและปลัดกระทรวงทุกกระทรวง

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน