วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นางพรรณี ประยูรรัตน์ ภรรยานายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าเยี่ยมนายสันธนะ หลังถูกจับกุมตามหมายจับและนำตัวไปสอบสวนต่อที่ สน.ทองหล่อ

นางพรรณีเปิดเผยว่า เบื้องต้นจะไปยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล แต่มั่นใจว่านายสันธนะถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง เพราะคดีดังกล่าวจบไปนานแล้ว และมีเจ้าหน้าที่รัฐโทรศัพท์ไปขอโทษ ลูอิส ซิสกิน หนึ่งในผู้ต้องหา ตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศไปแล้ว แต่มีบางคนเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นประเด็นเพราะนายสันธนะไปแตะพรรคการเมืองบางพรรค

นางพรรณียังกล่าวว่า มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน ส่วนจะเป็นพรรคไหน ให้สื่อมวลชนไปดูว่าก่อนหน้านี้นายสันธนะเปิดแผลพรรคไหนเป็นพรรคแรกและเกี่ยวข้องกับคนที่ไปเดินเก็บเงินที่บ่อนในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา

นางพรรณีระบุว่า ตนเองไม่อยากยื่นประกันตัวนายสันธนะ และไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์มาด้วย เพราะต้องการให้ประชาชนเห็นผลของการกระทำที่นายสันธนะเคยพยายามเปิดโปงเรื่องคนมีสีในประเทศ แม้ว่าวันพรุ่งนี้นายสันธนะจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ และมีคู่อริรออยู่ในนั้น ตนเองและครอบครัวก็ทำใจแล้ว

นางพรรณียังถือแท็บเล็ตที่อ้างว่ามีหลักฐานข้อมูลจำนวนมาก รวบรวมมาตลอด 7 ปี เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และจะสามารถเปลี่ยนผลการเลือกตั้งรอบหน้าได้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยต่อสื่อมวลชน จะหารือกับนายสันธนะก่อน

ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ออกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวม 11 หมายจับ เป็นคนไทย 7 คน และชาวต่างชาติ 4 คน ปัจจุบันจับกุมคนไทยได้แล้ว 4 คน คือนายสันธนะกับลูกน้อง เหลืออีก 7 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว ในจำนวนนี้มี 1 คน หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และการตรวจค้นห้องพักของนายสันธนะมีการขัดขืนเล็กน้อย พบอาวุธปืน 2 กระบอก อยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิพกพา

หมายจับคดีนี้เป็นคดีเก่าที่นายสันธนะกับพวกเคยมอบตัวไปแล้ว แต่คดีไปถึงชั้นอัยการอาจไม่ไปตามนัด ทำให้อัยการขอให้ตำรวจยื่นออกหมายจับในคดีเดิมใหม่อีกครั้ง ซึ่งตำรวจจับกุมตามหน้าที่ ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองใด ๆ ตามที่นายสันธนะหรือภรรยากล่าวหา

ระหว่าง พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ นางพรรณีพยายามเข้ามาชี้แจงกลางวงและท้าทายตำรวจด้วยน้ำเสียงเดือด ไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของตำรวจ โดยให้เหตุผลว่าการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องมีความเที่ยงธรรม เพราะจะทำให้บ้านเมืองอยู่ในความถูกต้อง และกล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจยังเน่าไม่พออีกหรือ ตำรวจต้องทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำเพื่อพรรคการเมืองหรือนักการเมืองใดพรรคหนึ่ง และขออย่าเป็นขี่ข้ารับใช้ อย่าทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ไม่ได้โต้เถียง แต่ยอมรับว่าตนเองถูกด่าและถูกสอนตั้งแต่ที่มีการจับกุมที่คอนโดฯ แล้ว จะโดนต่อว่าอีกครั้งก็ไม่เป็น แต่อย่าให้ตนเองได้สอนกลับบ้าง เพราะตนเองสอนเก่ง