เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ได้เกิดกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากมีผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งออกมาโพสต์ตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์แปลก ในกลุ่ม เที่ยวเองปักกิ่ง Beijing ที่ตัวเองเดินทางไปท่องเที่ยวจีน

โดยเจ้าของเรื่องเล่าว่า ตนเดินทางไปปักกิ่งและนำหมวกสีเขียวไปใส่ แต่ถูกคนจีนที่พักอยู่ในที่เดียวกันแนะนำว่าไม่ควรใส่ เพราะมีความหมายไม่ดี สื่อถึงว่า เมียมีชู้ เจ้าตัวจึงรู้สึกงงและตัดสินใจไม่ใส่ พร้อมตั้งคำถามให้ชาวเน็ตช่วยอธิบาย

หลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งในเชิงอธิบายและแสดงความแปลกใจต่อความเชื่อนี้ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองที่แตกต่างกันออกไป

หลายความคิดเห็นยืนยันตรงกันว่า การใส่หมวกสีเขียวในประเทศจีนมีความหมายเชิงลบจริง และไม่ควรสวมใส่ โดยได้อธิบายที่มาของความเชื่อดังกล่าวว่า มาจากเรื่องเล่าโบราณเกี่ยวกับภรรยาที่นัดแนะกับชายชู้ว่า หากเห็นสามีใส่หมวกสีเขียวออกจากบ้าน แปลว่าทางสะดวก เพราะภรรยาเป็นผู้จัดเสื้อผ้าให้สามีเอง จึงกลายเป็นสัญญาณให้ชายชู้รู้ว่าภรรยาอยู่คนเดียวในบ้าน

บางคนอธิบายเพิ่มเติมว่า คำว่า 带绿帽 หรือ ใส่หมวกเขียว เป็นสำนวนภาษาจีนที่หมายถึง โดนสวมเขา ใช้เรียกผู้ชายที่ถูกภรรยานอกใจ และถือเป็นสัญลักษณ์ของความอับอายหรือการถูกหักหลังในความรัก อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับคำแสลงในปัจจุบัน เช่น คำว่า น้องชาเขียว หรือ “绿茶” ที่ใช้เรียกผู้หญิงเจ้าชู้หรืออ่อยผู้ชายมีเจ้าของ ซึ่งยิ่งทำให้สัญลักษณ์หมวกสีเขียวถูกมองในแง่ลบมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งมองว่า เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อเก่าแก่ที่สืบต่อกันมาเท่านั้น ไม่ได้เป็นข้อห้ามที่จริงจัง หากใครต้องการใส่หมวกสีเขียวระหว่างไปเที่ยวประเทศจีนก็สามารถทำได้ตามปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความสบายใจของแต่ละคน