จากกรณีที่โคมยี่เป็งล้านนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประดับตกแต่งเมืองเพื่อต้อนรับเทศกาล ได้ถูกติดตั้งแบบกลับหัวบริเวณถนนท่าแพ แยกข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ จนถูกนักวัฒนธรรมและนักวิชาการหลายฝ่ายออกมาเตือนให้เร่งแก้ไข รวมถึงกรณีการใช้ดอกไม้พ่นสีดำ จนนำไปสู่การที่เทศบาลนครเชียงใหม่สั่งการให้ผู้รับเหมาไปดำเนินการแก้ไขนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดที่มีการติดตั้งโคมไฟประดับเทศกาลยี่เป็ง ทั้งบริเวณแยกข่วงประตูท่าแพ และแยกประตูเชียงใหม่

ปรากฏว่า การแก้ไขสร้างความสับสนให้กับชาวบ้านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ แยกข่วงประตูท่าแพ ซึ่งโคมไฟที่เคยติดตั้งอย่างถูกต้องแล้วก่อนหน้านี้ กลับถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตั้งใหม่ให้ กลับหัวลง เหมือนกับจุดที่มีปัญหาอื่น ๆ ทำเอาชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันงุนงงอย่างหนัก และคาดว่าอาจเกิดความเข้าใจผิดในการสั่งการแก้ไขอย่างแน่นอน ขณะที่บริเวณ แยกประตูช้างเผือก พบว่าโคมไฟยังคงติดตั้งในลักษณะกลับหัวเหมือนเดิม ไม่มีการแก้ไขใด ๆ

นอกจากประเด็นโคมไฟกลับหัวแล้ว ส่วนของ ดอกไม้พ่นสีดำ ที่ถูกรื้อออกไปก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่มีการนำดอกไม้ที่ปรับปรุงแล้วกลับมาติดตั้งแต่อย่างใด ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ บริเวณขอบฟุตปาธ ผู้รับเหมาได้ดำเนินการ พ่นสีขาวทับเส้นจราจรขาว-แดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ระบุว่า ห้ามจอด จนทำให้เส้นดังกล่าวกลายเป็นสีขาวทั้งหมด

จากการตรวจสอบไปยังผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการประมูลงานยี่เป็งของเทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่าโครงการนี้มีการแบ่งงานและใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนี้โครงการตกแต่งเมือง, ประติมากรรม, ซุ้มไฟสวยงาม (รวมถึงดอกไม้พ่นสีดำ) บริษัทแห่งหนึ่งถูกคัดเลือกไปในงบประมาณ 14,690,000 บาท โคมล้านนาตกแต่งซุ้มไฟ (ติดตั้งโคมกลับหัว) บริษัทอีกแห่งประมูลไปในงบประมาณ 3,390,000 บาท , งานจ้างเอกชน จัดเวทีกิจกรรมประเพณี บริษัทชื่อดังได้ไปในงบประมาณ 9,237,100 บาท , รวมงบประมาณทั้งหมดใน 3 ส่วน คือ 27,319,669 บาท

โดยบริษัทที่รับงานตกแต่งโคมล้านนาและบริษัทที่รับงานตกแต่งเมืองต่างก็เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายในส่วนงานที่มีปัญหา ขณะที่เจ้าของบริษัทที่รับงานจัดเวทีกิจกรรมประเพณี ได้ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดตั้งโคมกลับหัวและการใช้ดอกไม้พ่นสีดำแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับประชาชนและนักวิชาการเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเทศกาลสำคัญทางวัฒนธรรม และใช้งบประมาณสูง แต่กลับเกิดความผิดพลาดในการดำเนินการซ้ำแล้วซ้ำอีก

เรียบเรียงโดย สยามนิวส์