เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐพล ผ่องสุขสกุล ผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และอาสารักษาดินแดน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าตลาดแห่งหนึ่ง ภายในหมู่ 6 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่ามีพระสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสม โดยขับรถเก๋งมาบิณฑบาต และยืนรอรับของทำบุญโดยไม่เดินตามปกติ

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึงพื้นที่ พบบุคคลแต่งกายเป็นพระสงฆ์ ขับรถเก๋งสีบรอนซ์ทองมาจอดใกล้แผงค้า ก่อนเปิดท้ายรถหยิบอุปกรณ์และเดินมาปักหลักยืนบิณฑบาตหน้าแผงขายของ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจสอบเอกสาร พบชื่อ หลวงพ่อศักดิ์ หรือ นายสุทธิ์ศักดิ์ จันทโรธร อายุ 82 ปี
จากการสอบถามเบื้องต้น หลวงพ่อศักดิ์ไม่สามารถระบุวัดที่จำพรรษาได้อย่างชัดเจน และพยายามเลี่ยงคำตอบ แต่เมื่อถูกซักถามอย่างละเอียด จึงยอมรับว่าเพิ่งย้ายมาอยู่พื้นที่บางละมุง โดยเช่าห้องแถวย่านชัยพรวิถี 29 ห่างจากตลาดประมาณ 6-7 กิโลเมตร และเปิดเป็นสำนักสงฆ์ของตนเอง
เจ้าหน้าที่จึงพาตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบว่าห้องพักถูกดัดแปลงเป็นอาศรม ใช้ประกอบพิธีดูดวงและสะเดาะเคราะห์ ภายในยังพบขวดเบียร์เปิดดื่มค้างอยู่ในตู้เย็น ซึ่งหลวงพ่ออ้างว่าเป็นของพระรูปอื่นที่พักอยู่ด้วย จึงถูกนำตัวไปพบท่านเจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง

เมื่อถึงวัด พระมหาถาวร ฐานะวะโร เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอบางละมุง ได้ซักถามเพิ่มเติม ก่อนที่หลวงพ่อศักดิ์จะยอมรับว่าเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานีพร้อมพระอีก 2 รูป โดยมาอยู่เมืองพัทยาได้ราว 1 ปี แต่ไม่สามารถหาวัดจำพรรษาได้ จึงเช่าห้องแถวเดือนละ 2,800 บาทเพื่อเปิดเป็นสำนักสงฆ์ ส่วนพระอีก 2 รูปทราบว่าถูกติดตามจึงหลบหนีกลับบ้านก่อน
เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำให้พระศาสนาเสื่อมเสีย และถือว่าหลวงพ่อศักดิ์ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์โดยชอบตามพระธรรมวินัย จึงไม่จำเป็นต้องทำพิธีลาสิกขา พร้อมให้ถอดผ้าเหลืองและแต่งกายเป็นฆราวาสทันที ก่อนมอบตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ โดยส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ดำเนินคดีต่อไป