กัน จอมพลัง ตัดพ้อ หลังโดนดราม่ารายวัน เผยรู้สึกเหนื่อยอยู่กับลูกดีกว่า
ข่าวสังคม - โซเชียล

กัน จอมพลัง ตัดพ้อ หลังโดนดราม่ารายวัน เผยรู้สึกเหนื่อยอยู่กับลูกดีกว่า

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง ได้ไลฟ์สดผ่านเพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ เพื่อชี้แจงกรณีที่หลายคนออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของ มูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง และความโปร่งใสของเงินบริจาค รวมถึงการตั้งมูลนิธิที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า กัน จอมพลัง ไม่ได้เป็นประธาน แต่เป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น อีกทั้งหากมีการยุบเลิกมูลนิธิ ทรัพย์สินทั้งหมดอาจตกไปอยู่กับมูลนิธิที่มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองใกล้ชิด

กัน จอมพลัง กล่าวในไลฟ์ว่า ตนจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจทำถนนในช่วงนี้ เพราะต้องมาชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะยุบเลิกมูลนิธิ และไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง พร้อมเปิดเผยว่า ที่ใส่ชื่อ มูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ไว้ในเอกสาร เนื่องจากเคยไปขอคำปรึกษาจาก คุณธรรมนัส พรหมเผ่า มาก่อน หากสังคมไม่สบายใจ ตนก็พร้อมจะเปลี่ยนให้มูลนิธิอื่นดูแลแทน เช่น มูลนิธิด้านการศึกษา หรือมูลนิธิช่วยเหลือภัยพิบัติ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ใหญ่ ส่วนกรณี ทนายเดชา ร้องให้ตรวจสอบรถแลมโบร์กินีสีแดงของตน กัน จอมพลัง ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่าง เพราะชำระภาษีถูกต้องครบถ้วน

เจ้าตัวยังกล่าวด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจว่า วันนี้การทำดี สิ่งที่ต้องเจอ ต้องโดนอะไรบ้าง สิ่งที่ผมเสียใจมาก วันนี้จะเข้าไปทำถนน รับปากไว้แล้ว สุดท้ายไม่ได้เข้าไป ไม่ได้ทำอะไรเลย ทุกคนไม่สบายใจส่วนไหนก็บอกมา มูลนิธิใสมากตรวจสอบได้ตลอด หากอยากตรวจสอบทางทีมบัญชีพร้อมเสมอ มูลนิธิไม่เคยซื้อที่ดิน รถก็ของมูลนิธิ เรือก็ของมูลนิธิ ไม่เคยเอาไปขับเล่น ยอมรับว่าคงทำได้เท่าที่ทำ เพราะรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน อยู่กับลูกดีกว่า เริ่มเซ็ง จะทำงานแต่ไม่ได้ทำ ให้น้องๆ ทำให้มูลนิธิขับเคลื่อนตามหน้างานไป

ทุกวันนี้ยังไม่มีแผนล้มเลิก รู้ว่ามีคนไม่ชอบ ก็บอกมา บอกว่ามูลนิธิไม่มีชื่อผม ผมเป็นผู้ก่อตั้ง แล้วมันมีอะไรผิด ผมลงหน้างานมันคนละฟีลกับการดูแลเอกสาร ทำงานเช้ายันมืด เป็นเรื่องหนักที่ต้องไปดูเอกสารเป็นพันๆ แผ่น แล้วการดูแลองค์กร มูลนิธิใหญ่ระดับประเทศหลายแห่งต่างก็ใช้การบริหารในลักษณะเดียวกัน แล้วทำไมถึงต้องเป็นมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ วันนี้กำลังฉุดคนทำงานหรือไม่ อยากรอระบบที่ดี อยากให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามหน้าที่ของมันได้หมด แต่ถามว่า ต้องรอ 1 ปี หรือ 2 ปี ทั้งที่เราทุกคนร่วมกันช่วยกันได้ แล้วมันไม่ดีตรงไหน

ท้ายสุด กัน ยกตัวอย่างกรณี เมื่อจิตอาสาต้องควักเงินตัวเองซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้ยาย ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะเขารอให้คนดูแล เข้ามาดูแลไม่ได้ คุณยายอาจจากไปก่อน แล้วตอนนี้คุณยายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว ดังนั้น ถ้าเราเป็นคน เราก็ต้องรีบช่วยเหลือ ไม่ใช่รอให้ระบบพร้อมแล้วถึงเข้าช่วย

รับชมคลิป

ที่มา กันจอมพลัง ช่วยสู้

เรียบเรียง สยามนิวส์

ข่าวที่คุณอาจสนใจ