เหยื่อมิจฉาชีพแห่แจ้งความ สอท.1 หลังถูกหลอกลงทุน เงินหมุนพัวพันเส้นเงินคนร้าย จนโดนอายัดบัญชีซ้ำซ้อน!
ข่าวสังคม - โซเชียล

เหยื่อมิจฉาชีพแห่แจ้งความ สอท.1 หลังถูกหลอกลงทุน เงินหมุนพัวพันเส้นเงินคนร้าย จนโดนอายัดบัญชีซ้ำซ้อน!

กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย พร้อมแอดมินเพจ "ชณทัต ลุยครับ" เข้าพบตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 แจ้งความหลังตกเป็นเหยื่อหลอกลงทุน และบัญชีธนาคารถูกอายัด พ.ต.อ.รุ่งเลิศ ผกก.1 เผยจะเร่งประสานศูนย์วอรูม AOC ทำ "วอยลิสต์" ป้องกันการอายัดบัญชีซ้ำของผู้เสียหายที่รับเงินจากบัญชีต้องสงสัย

(16 ต.ค. 68) เวลา 13.00 น. ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (กก.1 บก.สอท.1) ชั้น 4 อาคารบี ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่ประสบปัญหาถูกอายัดบัญชีธนาคาร จากกรณีถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนและมีการโอนเงินพัวพันกับคนร้าย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.1 บก.สอท.1 และพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมด้วย นายชณทัต ปีทะมะภูวดล แอดมินเพจเฟซบุ๊ก "ชณทัต ลุยครับ" ที่เข้ามาเป็นผู้ประสานงานช่วยเหลือ

พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.1 บก.สอท.1 เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นกรณีที่ผู้เสียหารถูกหลอกลงทุน พิจารณาเบื้องต้นเข้าข่ายการกู้ยืมเงินฉ้อโกงประชาชน ทาง สอท. จะรับแจ้งความไว้ก่อน และจะเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไปว่าจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใด

ส่วนปัญหาความเดือดร้อนที่ผู้เสียหายถูกอายัดบัญชีนั้น ตนจะประสานกับทางศูนย์วอรูมของ AOC (ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวบรวมรายชื่อและเลขบัญชีของผู้เสียหายทั้งหมดส่งให้กับศูนย์ฯ เพื่อทำ "วอยลิสต์" (Voicelist) สำหรับบัญชีผู้เสียหายเหล่านี้

โดยระบุว่าเป็นกรณีที่รับโอนเงินจากบัญชีของผู้ต้องสงสัยที่เราสามารถระบุตัวตนได้แล้ว ถือเป็นการรับเงินจากผู้เสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอายัดบัญชีซ้ำซ้อน เมื่อมีผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความแล้วเส้นทางการเงินไหลมายังผู้เสียหายกลุ่มนี้อีก “เราจะสอบปากคำผู้ที่ประสงค์จะแจ้งความไว้ก่อนเป็นอันดับแรก หากเกรงว่าจะถูกอายัดซ้ำก็สามารถให้ข้อมูลกับตำรวจได้ ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 1441 หรือประสานงานผ่านทางเพจ "ชณทัต ลุยครับ"” พ.ต.อ.รุ่งเลิศกล่าว จะรีบดำเนินการปลดอายัดให้โดยไวตามนโยบายที่ ผบ.ตร.สั่งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยไว

ด้าน นายชณทัต ปีทะมะภูวดล กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาเบื้องต้นมากกว่า 20 ราย โดยกรณีนี้ผู้เสียหายทุกคนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งได้โอนเงินไปให้กับคนร้ายรายเดียวกัน และคนร้ายได้โอนดอกเบี้ยกลับคืนมาให้ แต่เมื่อเกิดปัญหาและมีการแจ้งความ คนที่ได้รับเงินจากบัญชีคนร้ายก็จะถูกอายัดทั้งหมด ปัญหาคือ เมื่อปลดอายัดได้แล้ว หากมีผู้เสียหายรายที่สองไปแจ้งความก็จะถูกอายัดบัญชีอีกรอบ กลุ่มผู้เสียหายที่มาในวันนี้ก็จะถูกอายัดซ้ำเป็นรอบสอง วนเวียนอยู่แบบนี้ โดยเคสนี้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 200 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกอายัดบัญชี

นายชณทัต ยังฝากเตือนว่า “ขอให้คิดให้ดีก่อนที่จะลงทุนอะไรก็ตามที่ให้ดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด มิฉะนั้นอาจจะเดือดร้อนถูกอายัดบัญชีแบบนี้ได้” โดยมิจฉาชีพรายนี้สร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีในสังคมออนไลน์ อ้างว่ามีบ้านหลังใหญ่ โรงงานหรู แต่ความจริงไม่ใช่ และแม้จะอ้างว่ามีเงินหลายร้อยล้านในบ้าน ก็ยังไม่ยอมคืนเงินให้ผู้เสียหายเลยแม้แต่รายเดียว โดยใช้กลวิธีทำให้เป็นคดีแพ่งเพื่อยืดเวลา ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินคืนในที่สุด

น.ส.เอ นามสมมุติ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ชีวิตจึงจะเคยถูกอายัดบัญชี เลขบัญชีม้ากับเขาก็คราวนี้  โดยถูกอายัดบัญชีธนาคาร 2 บัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้เลย ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะไม่ธุรกิจที่ทำอยู่หยุดนิ่ง ทำมาหากินอะไรไม่ได้ เงินสดก็มีติดตัวอยู่นิดหน่อย เดือดร้อนไปหมดทั้งบ้านเลย อยากให้ตำรวจช่วยปลดอายัดไวๆ

น.ส.บี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนรู้จักกัน น.ส.สมสกุล มิจฉาชีพรายนี้เพราะเคยรับงานพริตตี้มาเมื่อ 10 ปีก่อน หลังจากนั้นก็ อยากติดต่ออีกเลย เพิ่งมาเห็นเค้าเปิดชักชวนคนลงทุนโดยให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจลงทุน 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 9,100 บาท ในเวลาหนึ่งเดือน เห็นคนอื่นเล่นจากเขาไม่มีใครขาดทุนจึงตัดสินใจลงลงทุนกับเขาเมื่อเดือนเมษายน จำนวน 100,000 บาท จำนวน 2 มือ ก็ได้คืนทั้งต้นทั้งดอก ก็เดือนสิงหาคม ลงทุนอีกครั้งจำนวน 200,000 บาท คราวนี้ไม่ได้คืนทั้งต้นทั้งดอกตามตัวก็ไม่เจอ ฉันเชื่อว่าถูกหลอกให้ลงทุนก่อนจะโดนอายัดบัญชีถึงรู้ว่าเค้าไปพัวพันกับเส้นเงินของมิจฉาชีพรายนี้

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน