วันที่ 10 ตุลาคม 2568 จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากกองทัพภาคที่ 1 เตรียมดำเนินมาตรการตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนหลายจังหวัดเกิดความหวาดระแวงและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้จะมีการเตรียมกระเป๋าสัมภาระและของใช้จำเป็นไว้พร้อมอพยพได้ตลอดเวลา
ช่วงเช้าวันนี้ เวลา 08.30 น. บริเวณย่านการค้าตลาดชายแดนช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ บรรยากาศทั่วไปยังคงเป็นไปตามปกติ ร้านค้าส่วนใหญ่ยังเปิดขายสินค้า แม้จำนวนผู้คนและนักท่องเที่ยวจะบางตากว่าปกติ รายได้ลดลง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงต้องค้าขายเพื่อเลี้ยงชีพและต่างเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพไทยเร่งหาทางยุติปัญหากับฝั่งกัมพูชาโดยเร็ว เพื่อให้สามารถกลับมาทำมาหากินได้อย่างปกติ
นายประโยช สุขเต็ม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลด่าน หมู่ 14 อำเภอกาบเชิง กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้นำชุมชน อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านได้ร่วมกันลาดตระเวนเฝ้าระวัง แต่ไม่พบความผิดปกติใด แม้มีกระแสข่าวว่าทหารกัมพูชาอาจเปิดฉากยิงในวันนี้ แต่จนถึงช่วงเช้ายังไม่เกิดเหตุการณ์ใดขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้ตื่นตระหนก แต่พร้อมรับมือและอพยพได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยรอฟังคำสั่งจากผู้นำชุมชน ทั้งนี้ทุกคนต้องการให้สถานการณ์ยุติโดยเร็วเพื่อกลับมาทำมาหากินได้ตามปกติ
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางส่วนในพื้นที่ตำบลกาบเชิงและตำบลด่าน จำนวน 18 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็กและผู้ป่วยติดเตียง ยังคงพักอาศัยอยู่ที่วัดศรีรัตนาราม ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้ว เนื่องจากยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของพื้นที่ชายแดนและเกรงว่าจะอพยพลำบากหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
นางหนูบรรพณ์ พุดลา อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ที่อพยพมาอยู่ที่วัดศรีรัตนาราม เปิดเผยว่า ตนต้องอพยพหนีความไม่สงบชายแดนมาแล้วถึงสามครั้งและยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะยุติเมื่อใด ขอบคุณรัฐบาลที่มอบเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งได้ใช้จ่ายไปกับค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าดูแลผู้ป่วยในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้อยากกลับบ้าน แต่ยังไม่มีค่ารถหรือเงินซื้อของจำเป็นให้ผู้ป่วยกิน พร้อมวอนรัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้สิ้นสุดโดยเร็ว