(1 ต.ค. 2568) เหตุการณ์อันตรายจากความคึกคะนองถูกเปิดเผยขึ้น หลังคลิปวิดีโอความยาว 27 วินาที เผยแพร่ในโลกออนไลน์ เผยภาพ เด็กชายชั้น ม.2 รายหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม โยนวัตถุคล้ายประทัดที่ประดิษฐ์ขึ้นเองลงบนถนน ก่อนที่สะเก็ดระเบิดจะกระเด็นใส่ตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมเสียงร้องว่า หัวแตก ก่อนที่เพื่อนจะรีบพาขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมีเสียงในคลิปบอกให้โกหกเจ้าหน้าที่ว่าเดี๋ยวกูบอกหมอให้ว่าหกล้ม
ผอ.รพ.สต.บ้านนาฝาย อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มเด็กวัยรุ่น 5 คนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ รพ.สต. โดยในตอนแรกได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า หกล้มก้อนหินบาด แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้เห็นคลิปจากโซเชียลมีเดีย และเมื่อล้างแผลในวันถัดไป เด็กจึงยอมรับว่า เกิดจากการโยนประทัดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง
เด็กชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ หางคิ้วด้านซ้ายแตก มีเลือดออกเยอะ เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลห้ามเลือดและส่งตัวไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลนาดูน โดยต้อง เย็บถึง 3 เข็ม ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว และต้องมาล้างแผลต่อเนื่อง 7 วันก่อนตัดไหม
ด.ช.เวียร์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ผู้บาดเจ็บ ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและเพื่อนรวม 5 คน ได้ไปซื้อ ประทัดลูกบอล ในราคาลูกละ 2 บาท มากว่า 20 ลูก จากร้านค้าต่างอำเภอ จากนั้นได้ แกะเอาดินระเบิดด้านในออกมาผสมกับก้อนหิน แล้วนำไปห่อด้วยถุงยางอนามัยและมัดพันด้วยเทปพันสายไฟ เพื่อทำเป็น ประทัดกระแทก โดยตนได้ ศึกษาวิธีการทำมาจากแอปพลิเคชัน TikTok
ด.ช.เวียร์ เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ทำประทัดไว้ 4 ลูก เพื่อนคนอื่นโยนไปแล้ว 3 ลูก เหลือลูกสุดท้าย ตนเป็นคนโยน และเมื่อระเบิด สะเก็ดหินได้กระเด็นเข้าที่หางคิ้วจนแตก จึงกลัวถูกดุ และโกหกหมอไปว่าหกล้ม พร้อมยืนยันว่า ตอนนี้เข็ดแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอนาดูน กล่าวว่า แม้เด็กจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่การประกอบหรือเล่นประทัดเองนั้นถือเป็นเรื่องอันตรายและ มีโทษในทางอาญา ทั้งโทษปรับและโทษจำคุก โดยเฉพาะหากไปสร้างความเดือดร้อนหรือทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ
ทางอำเภอนาดูน ได้สั่งการไปยังผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และร้านค้า ให้ กวดขันและควบคุมการจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟอย่างเคร่งครัด โดยร้านค้าจะต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอเท่านั้น พร้อมเน้นย้ำถึงบทลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 220 ถึง 224 ว่าด้วยการกระทำโดยประมาทจนเกิดอุบัติภัยจากดอกไม้เพลิง ซึ่งมีโทษรุนแรงถึงขั้น จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท และรวมถึงโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากก่อให้เกิดเสียงดังจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชน เพื่อป้องกันเหตุร้ายในช่วงเทศกาลออกพรรษาและลอยกระทงที่กำลังจะมาถึงนี้
ทีมข่าสยามนิวส์ รายงาน