วันที่ 30 กันยายน 2568 พลเรือตรีชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) มีคำสั่งให้นาวาเอกไกรสร โพธิ์ตุ่น หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 (ชค.ทพ.นย.2) จัดกำลังเข้าปฏิบัติการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนจันทบุรี

การปฏิบัติการครั้งนี้นำโดยร้อยโทวัชรพล อินใจ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ชค.ทพ.นย.2 ร่วมกับร้อยโทอุดรทวีป บุตรศรีวงษ์ ผู้บังคับหมวดทหารพรานนาวิกโยธินคลองตาดำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแปลง และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี โดยทั้งหมดเข้าตรวจสอบพื้นที่ช่องทางธรรมชาติบริเวณ ต้นมะเดื่อคู่ หมู่ 8 บ้านแหลมใหม่ ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

ผลการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 45 คน แบ่งเป็นชาย 27 คน และหญิง 18 คน พร้อมผู้ลักลอบนำพาสัญชาติไทยจำนวน 3 คน ทราบชื่อคือ นายหาญ อายุ 43 ปี นายเด่น อายุ 32 ปี และนายมงคลชัย อายุ 26 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดจันทบุรี

จากการสอบสวน ผู้นำพาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจาก นางนวล ชาวกัมพูชา ให้พาแรงงานจากประเทศกัมพูชาเดินทางข้ามเขตแดนมายังพื้นที่ฝั่งไทย โดยจะนำส่งต่อให้นายเฉลิมชัย ในราคาค่าจ้าง 250 บาทต่อคน ขณะที่แรงงานกัมพูชาที่ถูกจับกุมมาจากหลายจังหวัด อาทิ พระตะบอง บันเตียเมียนเจย เสียมเรียบ และไปรเวง ซึ่งต่างอ้างว่ามีความเป็นอยู่ลำบาก ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงตัดสินใจลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย

แรงงานทั้งหมดให้การตรงกันว่ามีจุดหมายปลายทางในการทำงานในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ชลบุรี กรุงเทพมหานคร ปทุมธานีและนครราชสีมา โดยต้องจ่ายค่าเดินทางให้นายหน้าประมาณ 5,000-7,000 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทาง

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบนำพาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป