แห่ขอรับสัญชาติไทย ทะลักเพิ่ม 2 หมื่นกว่าราย
ข่าวสังคม - โซเชียล

แห่ขอรับสัญชาติไทย ทะลักเพิ่ม 2 หมื่นกว่าราย

วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดการรับทำสัญชาติไทย วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ให้กับต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยก่อนปี 2548 โดยมีเป้าหมาย 400,000 กว่าราย และมีข่าวแพร่สะพัดว่า มีหน้าม้าในพื้นที่ออกหาผลประโยชน์ กล่าวอ้างจะวิ่งเต้นช่วยเหลือให้ได้รับสัญชาติโดยเร็ว แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้น

โดยทางนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครองคนปัจจุบัน ได้เดินทางมาในพื้นที่และให้ตรวจสอบพื้นที่ไหนมีการเรียกเก็บเกินกว่า 160 บาท ถ้าจับได้จะมีโทษตามกฎหมาย และทางวินัย ส่วนทางนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งทุกพื้นที่ 25 อำเภอ ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ราชการและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ห้ามเรียกเก็บหรือหาผลประโยชน์ ถ้าจับได้มีหลักฐานก็จะมีโทษทางกฎหมายและทางวินัย ถึงออกจากราชการ

วันนี้ที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายขวัญชัย เนื่องจำนงค์ นายอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ท้าพิสูจน์ เพราะทางอำเภอเวียงแหง รับจัดทำสัญชาติโปร่งใส เก็บค่าใช้จ่าย 160 บาท เหมือนกันทั่วประเทศไทย และได้เรียกประชุมทุกส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทราบทั่วกัน ถ้าจับได้ว่ามีการเรียกเก็บหรือรับผลประโยชน์ให้ทำการดำเนินการตามกฎหมายและทางวินัยทันที ส่วนทางฝ่ายปฏิบัติการพิเศษของทางกรมการปกครอง ได้ส่งฝ่ายตรวจสอบเข้าพื้นที่เพื่อหาความจริงแล้ว โดยไม่แจ้งให้ทราบว่าจะเข้าวันไหน ถ้าจับได้ว่าเป็นส่วนไหนที่ทำผิดวินัยและมีหลักฐานก็จะไม่ช่วยเหลือโดยเด็ดขาด

ให้เจ้าหน้าที่ประกาศทุกวันว่าทุรายที่เข้ามารับสัญชาติจะเสียเงินเพียง 160 บาท เท่านั้น และยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องเอกสารหลักฐาน ซึ่งแจ้งทุกส่วนของเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบอย่างรอบครอบและรัดกุม ในแต่ละวันก็จะทำได้ประมาณ 100-120 ราย เพราะเจ้าหน้าที่มีน้อย ให้ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเวียงแหงเข้ามาช่วยในฝ่ายต่างๆ ทางอำเภอเวียงแหงนั้น มีผู้เข้าส่งเรื่องขอรับสัญชาติ ทะลักเข้ามาถึง 23,000 กว่าราย แล้วออกบัตรประชาชนให้ไปแล้วประมาณ 4,000 กว่าคน ขึ้นชื่อรอ 4,500 ราย รับคำร้องแล้ว 5,000 ราย และจะเข้ามาเพิ่มขออีก 7,000 กว่าราย ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนให้การช่วยเหลือชี้แจงรายละเอียดให้กับผู้เข้ามาขอรับสัญชาติ ตรวจสอบประวัติและเอกสารต่างๆ ให้ถูกต้อง และอย่าลัดคิวหรือเลือกปฏิบัติ ถ้าจับได้ว่ามีก็จะมีโทษทางวินัยทันที เพราะได้ชี้แจงแล้ว

ปัญหาอีกอย่างคืออำเภอเวียงแหงมี 9 ชนเผ่าชาติพันธ์ ต้องมีล่ามมาช่วยแปลให้กับผู้มารับสัญชาติ การตรวจเอกสารหลักฐานต่างๆ ในการเป็นหลักฐานว่าเข้ามาเมื่อปีไหน เกิดที่ไหนในไทยหรือต่างประเทศ ก็ต้องชัดเจนตามระเบียบกฎหมาย ใน 100% ก็จะมีผ่านแบบถูกต้องประมาณ 20% การคัดกรองต้องทำอย่างละเอียดรอบครอบ ได้มีนายวรพัทธ์ คงสะอาด นักกฎหมายคดีปกครองมาร่วมช่วยชี้แจงให้กับกลุ่มผู้มาขอรับสัญชาติ และร่วมในการชี้แจงการเสียค่าใช้จ่ายตามระเบียบราชการเพียง 160 บาท และรับแจ้งถ้ามีบุคคลที่เข้ามาแอบอ้างจะให้การช่วยเหลือและรับสินบน ซึ่งต้องมีหลักฐานว่าถูกเรียกเก็บสินบนจะเป็นรูปถ่ายรับเงินหรืออัดเทปในการเจรจา เพราะจะใช้เป็นหลักฐานให้ทางชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมการปกครองเข้าตรวจสอบง่ายขึ้น

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ รายงาน