วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568 เกิดเหตุการณ์กัมพูชายิงอาวุธหลายขนาดใส่พื้นที่ช่องอานม้า ซึ่งเป็นการวางแผนล่วงหน้า ทั้งการยั่วยุด้วยอาวุธ การนัดหมายคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) เข้าพื้นที่ และการแถลงบิดเบือนกล่าวหาไทย ทั้งหมดเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายกัมพูชา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2568
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงหลายขนาดเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยกองทัพบกได้บันทึกลำดับเหตุการณ์สำคัญไว้ดังนี้
เวลา 11.55 น. ตรวจพบเสียงปืน ค. และปืนกลจากฝ่ายกัมพูชา บริเวณเนิน 677
เวลา 12.00 น. ตรวจพบเสียงยิง ค. จากเนิน 677 ไปยังเนิน 600
เวลา 11.55-12.07 น. ฝ่ายกัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิด 40 มม. และปืนเล็กยาวใส่เนิน 600
เวลา 12.10 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนกล 93 ใส่เนิน 527 (3 ชุด ชุดละ 5 นัด) ฝ่ายไทยยิงตอบโต้
เวลา 12.16 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนเล็กยาวใส่เนิน 600 ฝ่ายไทยยิงตอบโต้
เวลา 12.23-12.35 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนไม่ทราบชนิด 3 นัด และ ค. รวม 11 นัด จากพื้นที่ช่องอานม้า ไม่ทราบเป้าหมาย
เวลา 13.00 น. ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะมีคณะ IOT กัมพูชาเข้าพื้นที่ช่องอานมาในช่วงบ่าย
เวลา 13.15 น. พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงชี้แจงทันทีหลังเหตุการณ์ยิงยั่วยุ โดยบิดเบือนอ้างว่าฝ่ายไทยโจมตีฐานทหารกัมพูชา
ต่อมา สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขยายผลเหตุการณ์ดังกล่าว
เวลา 13.30 น. พื้นที่ช่องอานม้าไม่มีการยิงเพิ่มเติม ทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังประจำแนว
พลตรี วินธัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณาลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด พบว่ามีลักษณะการทำงานที่ดูมีความประสานสอดคล้องกันจนผิดธรรมชาติ แตกต่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงการเตรียมการวางแผนล่วงหน้า เริ่มจากการยั่วยุด้วยอาวุธที่มุ่งหวังบันทึกภาพและบิดเบือนว่าฝ่ายไทยโจมตี ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สอดคล้องกับการนัดหมายคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) กัมพูชา ให้เข้ามาเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และปิดท้ายด้วยการแถลงชี้แจงเพื่อกล่าวหาฝ่ายไทย โดยทางการกัมพูชาสร้างภาพว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำต่อสังคมโลก ทั้งหมดเป็นเพียงเป้าหมายของการโฆษณาชวนเชื่อ
โฆษกกองทัพบกระบุว่า ในความเป็นจริง ฝ่ายกัมพูชาจงใจวางแผนสร้างเรื่อง ใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตไทยเพื่อยั่วยุหวังให้ไทยโจมตี พร้อมนัดหมาย IOT เข้ามาในพื้นที่ และเตรียมสร้างหลักฐานเท็จว่าฝ่ายไทยละเมิดมาตรการหยุดยิง ควบคู่กับการแถลงการณ์และรายงานกล่าวหาไทยในลักษณะบิดเบือนต่อสังคมโลก ซึ่งสะท้อนเจตนาที่ต้องการเพิ่มความขัดแย้ง
พลตรี วินธัย ยังย้ำว่า การละเมิดหยุดยิงอย่างร้ายแรง เช่น การลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งละเมิดอนุสัญญาและเป็นการใช้อาวุธแบบซ้อนรูป ขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างรุนแรง ควรเป็นประเด็นหลักที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ให้ความสำคัญตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะในช่วงหลัง สังคมจะเห็นเพียงภาพที่คณะฯ IOT ฝั่งกัมพูชาเหมือนจะลงสังเกตการณ์เฉพาะในพื้นที่ตามที่ฝ่ายกัมพูชากำหนด เพื่อสนับสนุนการสื่อสารให้กัมพูชาเป็นหลัก ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการจัดฉากอย่างเป็นระบบชัดเจน