รวบยกแก๊ง! ไกด์เถื่อน-นายจ้างต่างชาติ ยึดของกลางมูลค่านับล้าน
ข่าวสังคม - โซเชียล

รวบยกแก๊ง! ไกด์เถื่อน-นายจ้างต่างชาติ ยึดของกลางมูลค่านับล้าน

วันที่ 23 กันยายน 2568 มีรายงานว่า พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 5 กองกำกับการ 2 พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน เข้าตรวจสอบกรณีมีประชาชนร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีป้ายทะเบียนเป็นพาหนะในการพานักท่องเที่ยวเที่ยวชมพื้นที่

จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม Mr. Pyae Phyo Aung (เพ เพียว อัง) อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 รายเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะ โดยไม่มีใบอนุญาตใดๆ ในการทำหน้าที่ไกด์ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

ระหว่างการจับกุม Mr. Roman Christian Jenke อายุ 33 ปี สัญชาติเยอรมัน เดินทางมายังที่เกิดเหตุและแสดงตนเป็นนายจ้างของ Mr. Pyae Phyo Aung โดยยอมรับว่าได้ว่าจ้างให้ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ พร้อมจ่ายค่าจ้างรายวันและทิปเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังระบุว่าได้เปิด บริษัท เดิร์ท อี-ไบค์ จำกัด ทำธุรกิจนำเที่ยวบนเกาะพะงันมานาน 6 เดือน โดยโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ คิดค่าบริการ 2,000 บาทต่อชั่วโมงต่อคน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เกาะสมุย แต่ไม่ได้ขออนุญาตเปิดสาขาหรือดำเนินธุรกิจในพื้นที่เกาะพะงันอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อ Mr. Roman ในความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่ได้รับอนุญาต และเป็นนายจ้างที่จ้างบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต

นอกจากนี้ ยังมีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ กรรมการบริษัท เดิร์ท อี-ไบค์ จำกัด ในข้อหา ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาตสาขา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งรวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยว รวมมูลค่านับล้านบาท

พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต กล่าวย้ำว่า อาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยเท่านั้น และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว