ทหารพรานช่วยรถติดหล่ม เจอยาบ้าซุกถังน้ำแข็ง 7 หมื่นเม็ด 1 ใน 3 อ้างเพื่อนชวนมาตกปลาเฉยๆ
ข่าวสังคม - โซเชียล

ทหารพรานช่วยรถติดหล่ม เจอยาบ้าซุกถังน้ำแข็ง 7 หมื่นเม็ด 1 ใน 3 อ้างเพื่อนชวนมาตกปลาเฉยๆ

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2568 ร้อยโทโกวิทย์ วงษ์แสง ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีกลุ่มบุคคลเตรียมลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนตรวจสอบบริเวณแนวชายแดน

เวลา 03.50 น. ขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนมาถึงบริเวณถนนการเกษตร พื้นที่บ้านเหล่าหลวง ตำบลดงบัง พบชาย 3 คนกำลังช่วยกันเข็นรถสามล้อเครื่องที่ติดหล่มอยู่ โดยบนรถมีถังน้ำแข็งสีน้ำเงินและอุปกรณ์หาปลาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าให้ความช่วยเหลือ แต่พบพิรุธจึงขอทำการตรวจค้น

จากการตรวจสอบพบ ยาบ้า 12 แพ็ค (ประมาณ 70,000 เม็ด) ซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำแข็งที่ปิดด้วยโฟมสีขาว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายทั้ง 3 คน พร้อมของกลางและประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมตรวจยึด

ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนประกอบด้วย

- นายรัชชานนท์ (สงวนนามสกุล) หรือ แก้ว อายุ 46 ปี ชาวตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง

- นายโฉม (สงวนนามสกุล) หรือ โฉม อายุ 50 ปี ชาวตำบลเมือง อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์

- นายอัฐพล (สงวนนามสกุล) หรือ เจมส์ อายุ 24 ปี ชาวตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง

เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาที่หน่วย เพื่อทำการตรวจนับของกลางต่อหน้าผู้ต้องหาและนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลบุ่งคล้า ผลตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเป็นบวก

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายรัชชานนท์และนายโฉม ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากชายชาวเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว ให้นำยาบ้าไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ โดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท พร้อมยาบ้าสำหรับเสพ ซึ่งเคยทำมาแล้วหลายครั้ง

ขณะที่นายอัฐพล ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าเพียงถูกชักชวนไปหาปลาที่แม่น้ำโขงและถูกขอให้ช่วยยกถังน้ำแข็งขึ้นรถ โดยไม่ทราบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ แต่ยอมรับว่าเสพยาร่วมกับผู้ต้องหาทั้งสองจริง

หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพและวิดีโอของผู้ต้องหาตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2556 พร้อมจัดทำบันทึกการจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและเอกสารหลักฐานทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหล่าหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย