เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2568 ร.ต.อ.สุภัทร์ ขุนนุ้ย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งเหตุรถชนกันบริเวณหน้าร้านสะดวกซัก ตลาดควนมะพร้าว ถนนอภัยบริรักษ์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดขวางถนน สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อคือ ส.อ.จิรพัส (ขอสงวนนามสกุล) สังกัดกองพลทหารราบแห่งหนึ่ง อยู่ในสภาพสวมชุดนอนและมีอาการคล้ายมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ภายในรถพบเป้สะพายของทหารวางอยู่ 1 ใบ

ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียนจังหวัดพัทลุง ถูกชนท้ายเสียหายหนัก ท้ายรถยุบเข้ามาครึ่งคัน ภายในรถมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นายซัน อายุ 21 ปี เป็นคนขับ และมารดาอายุ 50 ปี ที่โดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลพัทลุง โดยรวมมีผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ทั้งหมด 3 ราย

จากการสอบถามนายซัน ผู้ขับขี่รถเก๋ง ระบุว่า ได้นำมารดามาซักผ้าช่วงกลางดึก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีที่จอดรถสะดวก ขณะจอดรถรออยู่หน้าร้านสะดวกซัก ได้มีรถกระบะขับมาทางด้านหลังด้วยความเร็วสูงและพุ่งชนอย่างแรง ทำให้รถตนพุ่งไปข้างหน้าระยะไกลประมาณ 50 เมตร ก่อนจะหยุดนิ่ง โดยยืนยันว่าจอดอยู่เฉย ๆ ขณะเกิดเหตุ

เจ้าของร้านหมูกระทะที่อยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุให้การว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดในช่วงเกิดเหตุ จากนั้นเห็นควันลอยฟุ้งในอากาศ ก่อนพบว่ามีอุบัติเหตุรถชนบริเวณหน้าร้านสะดวกซัก

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาด้วยความเร็วสูงจากทางลำปำมุ่งหน้าเข้าเมืองและเฉี่ยวรถจักรยานยนต์ที่ออกจากร้านสะดวกซื้อ แต่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์สามารถหลบหลีกได้ทัน ก่อนที่รถจะพุ่งชนท้ายรถเก๋งของสองแม่ลูก

นายพงษ์พร (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งพักอาศัยใกล้จุดเกิดเหตุ ให้การว่า ได้ยินเสียงชนสองครั้งจึงออกมาดู พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวยังได้พุ่งชนกำแพงบ้านของตน และเสาหลังคาที่จอดรถของร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ติดกันจนได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พบว่ารถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนท้ายรถเก๋งอย่างแรงจนรถเก๋งกระเด็นไปข้างหน้าประมาณ 50 เมตร ขณะที่รถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาเหล็กและกำแพง ก่อนจะหยุดนิ่งจอดขวางถนน

เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียดและเตรียมดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ขับขี่รถกระบะตามขั้นตอน