ความจริงใกล้ปรากฏ! แม่แตงโม หอบหลักฐานให้ DSI เชื่อวิญญาณลูกถูกสะกดอยู่ที่วัด
ข่าวสังคม - โซเชียล

ความจริงใกล้ปรากฏ! แม่แตงโม หอบหลักฐานให้ DSI เชื่อวิญญาณลูกถูกสะกดอยู่ที่วัด

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือคุณแม่แตงโม และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้าพบคณะพนักงานสืบสวน เรื่องที่ 20/2568 นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบพยานเอกสารเพิ่มเติมซึ่งได้รับจากศาลจังหวัดนนทบุรี นำสำนวนคดีและเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อประกอบการดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม

นางพนิดา หรือแม่แตงโม กล่าวว่า วันนี้เอาเอกสารพยานหลักฐานจากศาลมาให้คพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ถึงแม้ว่าตนจะยังได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากคนบนเรือ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเดินหน้าในวันนี้ ตนยังคงคิดถึงลูกสาวทุกวัน จะเป็นโรคประสาทแล้ว เพราะคิดอะไรช้า ทำอะไรช้า ตอนนี้ยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อว่าน้องยังอยู่กับตน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นน้องโมมาหาเลย เพราะเชื่อว่าน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว

อีกไม่กี่วันหลังจากนี้จะเป็นวันเกิดของน้องโมแล้ว มีแพลนจะทำบุญให้ลูก แม้ว่าทุกปีจะทำอยู่แล้วก็ตาม แม้ใจหนึ่งก็เชื่อว่าน้องโมขึ้นสวรรค์เป็นนางฟ้าไปแล้ว อยู่สบายแล้วก็ตาม แต่เชื่อในใจลึกๆ ว่าดวงวิญญาณยังคงถูกสะกดจิตอยู่ ส่วนเรื่องคดีที่จบไป ไม่ได้มีความเคลือบแคลงใจอะไร คงพูดว่าไม่ให้อภัย แต่ในวันที่แม่เดินลงมาจากศาลวันนั้นเรียกว่าพูดไม่ออก แม้ว่าจะคุยกับนักข่าวได้ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก อยากให้เราไปคิดเองว่าทำไมศาลสรุปเช่นนั้น ที่บอกว่ายังไม่ให้อภัยใครนั้น ขอไม่ระบุดีกว่า ดังนั้นความหวังของแม่ในตอนนี้ก็อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา แต่ถ้าหากมีการทำจริงทำเพราะเหตุผลใด นางพนิดา กล่าว

ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า คุณแม่ถือเป็นโจทก์ร่วมในคดี โดยได้ไปขอคัดเอกสารจากศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมามอบให้กับพนักงานสืบสวน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ความคืบหน้าในสำนวนการสืบสวนเดินหน้ามาถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พนักงานสืบสวนส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ เพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบว่าภาพดังกล่าวเหล่านั้นมีการแก้ไขดัดแปลงหรือทำอะไรกับภาพหรือไม่ โดยส่วนใหญ่เป็นภาพที่เราได้มาจากพยานบุคคลและภาคประชาชน รวมถึงคุณแม่เองด้วย

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อเราได้รับพยานหลักฐาน พยานเอกสาร และพยานวัตถุ พนักงานสืบสวนจะนำไปวิเคราะห์ทั้งหมด วิเคราะห์ร่วมกับเอกสารหลักฐานที่ได้จากหน่วยงานราชการอื่น เพื่อที่จะจะได้วิเคราะห์และเตรียมลงพื้นที่อีกครั้งในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะมีการประชุมคณะพนักงานสืบสวนเพื่อวิเคราะห์ว่าสุดท้ายแล้วข้อมูลที่ได้มานั้นมีการบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอย่างไรหรือไม่ หรือมีคำให้การของพยานที่ให้การต่อศาลเป็นอย่างไรบ้าง

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลของการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโม คณะพนักงานสืบสวนได้มาบางส่วนแล้ว แต่เราได้ส่งให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้ง และที่ผ่านมาเราได้ข้อมูลจากการสอบปากคำพยาน 52 ปาก ข้อมูลทั้งหมดจะสามารถนำไปดูในเรื่องของข้อสงสัยเกี่ยวกับที่ตั้ง

เมื่อถามว่าตอนนี้ดีเอสไอเจออะไรที่ผิดปกติจากข้อมูลที่ได้รับหรือไม่ พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ต้องขอสงวนไว้ก่อน เพื่อใช้ดำเนินการในส่วนถัดไป ส่วนกรณีว่าความคืบหน้าสืบสวนดำเนินการไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ นั้น พบหรือว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าข่ายมาเกี่ยวข้อง ตนต้องขอเรียนว่าจากการสอบปากคำพยาน 52 ปากที่ผ่านมา เราได้สรุปยอดคำให้การและเปรียบเทียบกับเอกสารจากหน่วยงาน คราวนี้จึงเหลือเพียงแค่ผลของนิติวิทยาศาสตร์ที่รอการพิสูจน์ภาพถ่ายที่เราได้นำส่งไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อได้ผลตรวจพิสูจน์แล้วจึงจะนำมาประกอบกับพยานให้การว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร มีการบิดเบือนพยานหลักฐานหรือไม่ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจึงเป็นเรื่องที่ยังคงตกค้างมากกว่า

นอกจากนี้ พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า สำหรับกลุ่มคนมีแนวโน้มว่าจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ต้องขอสงวนไว้ก่อน ถ้าหากคณะสืบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งแน่นอนว่าเรามีความเห็นทางคดีอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ที่ผ่านมาคณะพนักงานสืบสวนได้มีการลงเรือในพื้นที่เกิดเหตุจำนวนสองครั้ง นอกจากการลงเรือแล้วก็ยังมีเรื่องของการดูข้อมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีการลงพื้นที่เก็บข้อมูลบนบก และเราก็มีการสงสัยพยานบางอย่างจึงส่งภาพถ่าย ที่ขอได้จากภาคประชาชน ส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ผลอย่างไรจะมาสรุปรวมอีกครั้ง ส่วนเรื่องการใช้เครื่องเลเซอร์ใต้น้ำก็จะเป็นส่วนที่นำไปใช้ประกอบกับการที่คุณแตงโมตกน้ำ ว่าคำให้การแต่ละส่วนของพยานมีการให้การสอดคล้องหรือขัดแย้งอย่างไรบ้างหรือไม่

เมื่อถามว่าในการสืบสวนของดีเอสไอที่ที่ผ่านมาได้เคยมีการพูดคุยกับทางพนักงานสอบสวนในคดีหลักหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 1 กับ ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีการให้ข้อมูลให้เอกสารที่เราขอไปจำนวนหนึ่งแล้ว ส่วนนี้ก็อยู่ในสำนวนการสืบสวนของเราแล้ว ส่วนจะเจออะไรผิดปกติหรือไม่นั้น ยังขอสงวนเก็บไว้ในส่วนของการสืบสวนก่อน แต่คำให้การของพยานที่ได้เอกสารมาจากศาลจังหวัดนนทบุรี ก็จะต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย