สั่งสอบทั่วประเทศ! กรมอุทยานฯ ลั่นมาตรการต้องชัด ห้ามละเลยสัตว์ดุร้ายในทุกพื้นที่
ข่าวสังคม - โซเชียล

สั่งสอบทั่วประเทศ! กรมอุทยานฯ ลั่นมาตรการต้องชัด ห้ามละเลยสัตว์ดุร้ายในทุกพื้นที่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 กันยายน 2568 ที่อาคารสืบนาคเสถียร ชั้น 12 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ในกรุงเทพมหานครถูกฝูงสิงโตทำร้ายจนเสียชีวิตต่อหน้านักท่องเที่ยว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

จากการรายงาน พบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกสิงโตหลายตัวรุมกัดในขณะเดินลงจากรถบริเวณโซนสัตว์ดุร้าย โดยได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แม้จะพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ได้สั่งปิดพื้นที่โซนสัตว์ดุร้ายทันที พร้อมตรวจสอบความแข็งแรงของกรงและระบบป้องกันสัตว์หลุด รวมถึงประเมินมาตรการความปลอดภัยทั้งสำหรับเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว เช่น อุปกรณ์ฉุกเฉิน ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว กระบองไฟฟ้า ปืนยิงยาสลบและอุปกรณ์ควบคุมสัตว์อื่น ๆ

เหตุการณ์ครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าจะเข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายได้ จึงถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องเร่งปรับปรุงระบบความปลอดภัย โดยเฉพาะการกำหนดให้เจ้าหน้าที่มีบัดดี้และอุปกรณ์ติดตัวที่เหมาะสม เพื่อป้องกันเหตุร้ายซ้ำรอยและลดความเสี่ยง หากในอนาคตเหยื่อเป็นนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าดุร้ายทั่วประเทศ โดยต้องเลี้ยงในกรงที่มีมาตรฐาน หากพบการฝ่าฝืนเงื่อนไข หรือไม่มีการจดทะเบียน จะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและแพ่ง พร้อมยึดสัตว์ให้กรมอุทยานฯ รับไปดูแล และผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ปัจจุบัน มีสัตว์ป่าดุร้ายขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ มากกว่า 620 ตัว และตั้งแต่ปี 2567 รัฐบาลมีคำสั่งห้ามนำเข้าสัตว์ป่าดุร้ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีปริมาณเพียงพอสำหรับการเพาะเลี้ยงในประเทศแล้ว

สำหรับสิงโตจำนวน 5 ตัวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ขณะนี้ถูกกักตัวแยกไว้เพื่อปรับพฤติกรรม โดยจะมีการประเมินอย่างละเอียดว่าจะสามารถนำกลับมาแสดงต่อสาธารณะได้หรือไม่ เพราะหากสัตว์เริ่มคุ้นเคยกับการทำร้ายมนุษย์ จะเป็นอันตรายยิ่งกว่าเดิม

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุอาจเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่เองที่เข้าใกล้สัตว์โดยไม่ระวัง แม้จะมีความคุ้นเคยกับสัตว์เหล่านี้ แต่ก็ไม่ควรละเลยสัญชาตญาณนักล่าของสัตว์ป่า จึงได้กำชับให้เข้มงวดในกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวใกล้ชิดสัตว์ดุร้าย เช่น การให้อาหาร หรือการถ่ายภาพ หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ต้องยุติทันที

กรมอุทยานฯ ยังย้ำให้สวนสัตว์ทุกแห่งต้องจัดการซ้อมแผนความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมลักษณะนี้ขึ้นอีก