วันที่ 10 กันยายน 2568 พ.ต.ท.เจริญญา ปุริโส สารวัตรสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.20 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระเบิดจากรถกระบะส่งของ ที่บริเวณ สี่แยกเขางู ถนนเพชรเกษม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ส่งผลให้รถของประชาชนที่จอดอยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายกว่า 10 คันและมีบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง
หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรีและรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองราชบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ-ไทรทัน สีดำ ทะเบียนจังหวัดชัยนาท มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 10 นาทีในการควบคุมเพลิง
จากการตรวจสอบ พบว่ารถกระบะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชิ้นส่วนของตัวรถและสิ่งของที่บรรทุกมา เช่น สบู่ คันเบ็ด เบ็ดตกปลา เหยื่อปลอมและกระดาษกาวดักแมลงวัน กระจายเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
แรงระเบิดส่งผลกระทบต่อรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งรถกระบะ รถเก๋งและรถเอนกประสงค์ รวมกว่า 10 คัน ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ กระจกหน้าต่างและประตูของบ้านเรือนโดยรอบแตกร้าวและหลุดออกจากตัวบ้าน
เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือ
- นายสรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี คนขับรถกระบะ
- นายสยามรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เจ้าของบริษัทรับจ้างขนส่งของ
ทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เมืองราชบุรี เบื้องต้นอาการไม่สาหัส
นางสุดาคาร (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้อยู่อาศัยใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้นอนพักผ่อนอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดจึงรีบวิ่งออกมาดู พบสภาพบ้านเสียหาย ฝ้าเพดานพังทลาย โคมไฟและพัดลมติดผนังหลุดตกลงมาและสุรา-ไวน์สะสมในตู้โชว์ที่เก็บไว้มากกว่า 30 ปีหล่นแตกเสียหายทั้งหมด
เบื้องต้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถบรรทุกตู้ทึบ ภายในบรรทุกสิ่งของหลากหลายรายการ รวมถึง พลุระเบิดจำนวน 1 ลัง ซึ่งเป็นของเก่าที่ค้างสต๊อกไว้โดยยังไม่ได้ขนย้ายออก เจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดการเสียดสีของวัตถุภายในรถจนทำให้เกิดประกายไฟ ลุกลามไปติดพลุและทำให้เกิดการระเบิด
แรงระเบิดดังกล่าวส่งผลให้รถตู้ทึบที่จอดอยู่ใกล้กัน รวมถึงรถของชาวบ้านและบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าว ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ได้ทำการกันพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของเหตุระเบิดในครั้งนี้ต่อไป