วันที่ 8 กันยายน 2568 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำและน้ำท่วม หลังจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศประสบปัญหาฝนตกหนักต่อเนื่ง ในช่วงฤดูฝนอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง และน้ำสกปรก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคหลายชนิดที่สามารถแพร่กระจายสู่คนได้ง่าย โรคเหล่านี้มักเรียกว่า โรคที่มากับน้ำ หรือ โรคที่มากับน้ำท่วม เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสหรือรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน หากเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ควรเข้มงวดลูกหลานและคนในครอบครัว อย่าลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ

โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระบุว่า โรคที่มากับน้ำท่วมที่พบบ่อย ได้แก่

1. โรคน้ำกัดเท้า เกิดจากการย่ำน้ำเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหนังเปื่อยและเชื้อราสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย อาการคือ คัน เท้าลอก มีตุ่มพอง และอาจติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหากปล่อยไว้

2. โรคทางเดินอาหาร น้ำที่ท่วมขังอาจปนเปื้อนสิ่งปฏิกูลและเชื้อโรค เช่น อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ หรืออาหารเป็นพิษ ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และปวดท้อง

3. โรคฉี่หนู (Leptospirosis) มักพบในพื้นที่น้ำขังที่ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ เช่น หนู สุนัข หรือแมว ผู้ติดเชื้ออาจมีไข้สูง ปวดศีรษะ ตาแดง และปวดเมื่อย หากไม่รีบรักษา อาจรุนแรงจนทำให้ไตวายหรือตับวายได้

4. โรคไข้เลือดออก เกิดจากยุงลายที่แพร่พันธุ์ได้มากขึ้นในฤดูฝน ผู้ป่วยมักมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว และอาจมีจุดเลือดออก หากไข้ไม่ลดใน 2-3 วันควรรีบพบแพทย์

5. โรคตาแดง ติดต่อจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในน้ำสกปรก อาการคือ ตาแดง คันตา มีขี้ตามาก และอาจปวดตา

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำท่วม หรือน้ำขัง หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยิบอาหารและหลังสัมผัสน้ำสกปรก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อย ตาแดง หรือท้องเสีย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน