ยังไม่ปิดวัดพระบาทน้ำพุ แม้เงินวัดเหลือน้อยแล้ว ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลจนเกือบคิดสั้น
ข่าวสังคม - โซเชียล

ยังไม่ปิดวัดพระบาทน้ำพุ แม้เงินวัดเหลือน้อยแล้ว ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลจนเกือบคิดสั้น

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี  ได้นำคณะกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี เดินทางไปยังวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์ภายในตึกคนทำดีอวดผี ของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ จำนวน 58 ราย เพื่อให้คำแนะนำในการยกระดับเป็นสถานประกอบการสุขภาพ ในการดูแลผู้ป่วยให้ได้มาตรฐาน ตามมาตรฐานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้เข้าไปดำเนินการปรับในส่วนของบ้านพักผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ได้สุขอนามัย มีอนามัยสิ่งแว้ดล้อมที่ดีแล้ว เข้าไปปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ พร้อมทั้งแสงสว่าง และความสะอาดของห้องน้ำ ส้วม และการกำจัดขยะ การแยกขยะติดเชื้อ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ภายในวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี

ส่วนที่ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หรือปิดวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่นั้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ยืนยันว่า ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากวัดพระบาทน้ำพุ ทั้งในส่วนของสถานชีวาภิบาล และในตึกผู้ป่วยเอดส์ ในตึกคนทำดีอวดผี ซึ่งต้องรอให้ทางวัดประกาศอย่างเป็นทางการก่อนว่า ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้แล้ว ทางสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะรับช่วยในการดูแลต่อในส่วนนี้

ทางด้าน พระครูสุวัฒน์ กิตติสาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ในขณะนี้ภายในวัดยังต้องรับภาระหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างอยู่  เงินที่จะต้องใช้จ่ายของวัดก็เหลือน้อย จะยังไม่สามารถรับภาระ คือ รับผู้ป่วยมาเพิ่มอีกก็จะเพิ่มภาระขึ้นอีก ผู้ป่วยที่มีอยู่ยังจะลำบากอยู่ ได้มีการพูดคุยกับผู้ป่วยที่แข็งแรงอยู่ว่า หากมีที่ดีตรงไหน หรือ จะมีงานที่ไหนทำแล้วมีรายได้ ก็แยกกันไปทำกันก่อน เพื่อช่วยเหลือทางวัดในขณะนี้  ซึ่งทางวัดก็ยังจะได้หาวิธีช่วยเหลือผู้ป่วยที่แข็งแรง หรือหาอาชีพให้ผู้ป่วยทำอยู่

ขณะที่ นายสมพร โสมะเค็ง รักษาการไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ เผยว่า ในส่วนของผู้ป่วยในวัดพระบาทน้ำพุ แป่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ แบ่งออกตามสภาพอาการ โดยกลุ่มหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่นอนติดเตียง และอีกกกลุ่มคือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้เข้ามาดูสภาพความเป็นอยู่และความพร้อมในด้านต่างๆ ของผู้ป่วยแล้ว หลักๆ คือ ผู้ป่วยที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และมีความจำเป็นที่ต้องอยู่ที่วัดต่อ ได้กำหนดแนวทางในการแก้ปัญหา โดยการสร้างอาชีพให้ โดยยังไม่ได้ปิด หรือ ให้ย้ายออกไปเลยในทันที ต้องใช้เวลาให้ผู้ป่วยมีความมั่นคงทางจิตใจก่อน เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้ป่วยขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ยังคงมีความกดดัน มีความวิตกกังวล จนบางคน ถึงขั้นคิดสั้น

ส่วนกรณี ค่าใช้จ่ายของวัด ที่เหลืออยู่เพียงล้านกว่าบาท และสามารถใช้จ่ายได้เพียง 1 เดือนนั้น รักษาการไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ บอกว่า ทางวัดจะพยายามยื้อให้ได้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความมั่นคง ทางอารมณ์ก่อน ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีแนวทางที่จะปิดตัวลง ซึ่งขณะนี้ต้องดูในเรื่องความรู้สึกของผู้ป่วยเป็นหลักก่อน เนื่องจากผู้ป่วยบางรายอยู่กับวัดมา 10 ถึง 20 ปี

ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง