ผู้ปกครองเด็ก ป.2 3 ราย รุดหาปวีณา เอาผิดครูหื่น อนาจารลูกนานกว่า 1 ปี
ข่าวสังคม - โซเชียล

ผู้ปกครองเด็ก ป.2 3 ราย รุดหาปวีณา เอาผิดครูหื่น อนาจารลูกนานกว่า 1 ปี

จากกรณีที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ 3 ราย ได้ร้องต่อมูลนิธิปวีณา ว่าบุตรสาว ได้ถูกครูหนุ่มอัตราจ้าง สอนวิชาภาษอังกฤษ ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ได้ล่วงละเมิดทางเพศบุตรสาวมานานนับปี และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้หลายครั้ง ซึ่งครูจะหลอกมากระทำช่วงพักเที่ยงในห้องพักครู และข่มขู่เด็กไม่ให้บอกใคร และแม่เด้กผู้เสียหายบอกว่าก่อนหน้านี้ครูรายนี้เคยก่อเหตุกับเด็กนักเรียนโรงเรียนเก่ามาแล้วแต่ไกล่เกลี่ยได้ไม่ถูกดำเนินคดีก่อนจะมากระทำซ้ำอีก

ล่าสุด วันนี้ (25 ส.ค. 2568) เวลา 10.30 น. ที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) พาผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิง จำนวน 3 รายเข้าพบ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์สิริ ผ.ก.ก.สภ.หนองแค เพื่อติดตามคดีและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.2 ร.ร.แห่งหนึ่ง สังกัดเทศบาล ต.หนองแค รวม 3 คนถูกครูหนุ่มสอนภาษาอังกฤษล่วงละเมิดทางเพศมานานนับปี

พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง.ผบก.ภจว.สระบุรี ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต. ธรรมนูญ เชาววานิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ให้เข้ามาดูแลในคดีนี้ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์สิริ ผกก.สภ.หนองแค ได้นำนางปวีณา หงสกุล และผู้ปกครองนักเรียนทั้ง 3 คน ขึ้นไปยังห้องประชุมของ สภ.หนองแค โดยมีฝ่ายปกครอง และผู้แทนจาก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กฯ จ.สระบุรี เข้าร่วมรับฟัง ต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากด้วย

นางปวีณา ได้สอบถามผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้เสียหายทั้ง 3 รายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และมีความประสงค์อะไรที่จะให้ ทางมูลนิธิฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ซึ่งผู้ปกครองได้เล่าว่า ที่ทราบเรื่องที่ลูกสาวถูกกระทำเพราะ มีกลุ่มเพื่อนๆ นักเรียนในโรงเรียนเดียวกันพากันพูดคุย ปากต่อปากว่า ครูคนดังกล่าว ได้ก่อเหตุกับเด็ก นักเรียนหญิงชั้น ป.2 หลายคน และบางคนถูกระทำติดต่อกันมาตั้งแต่อยู่ชั้น ป.1 พวกตน (ผู้ปกครอง) จึง สอบถามลูกสาว เพราะอยู่ชั้น ป.2 ว่า มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ลูกสาวรับว่า เป็นเรื่องจริง และครูจะเรียกนักเรียนในกลุ่มลูกสาวของพวกตนที่หน้าตาดีในห้อง รวม 3 คนผลัดเปลี่ยนกันหลอกล่อให้เข้าไปในห้องพักครู บ้าง ห้องนาฏศิลป์บ้าง หรือแม่แต่ในห้องเรียนก็ไม่เว้น แล้วแต่จะสบโอกาสก็จะกระทำเป็นประจำ โดยใช้มือจับอวัยวะเพศ แล้วใช้นิ้วสอดใส่เข้าในอวัยวะเพศ ก่อนใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้ และยังข่มขู่ห้ามไม่ให้บอกใครอีกด้วยหากไม่เชื่อจะนำรูปที่ถ่ายไว้ออกประจาน

ผู้ปกครองเด็กนักเรียนผู้เสียหาย ยังร้องขอต่อนางปวีณา อีกว่า ขอให้ช่วยหาโรงเรียนที่ใหม่ ย้ายลูกของพวกตนไปเรียนที่อื่นด้วย เพราะเกรงลูกอับอายเพื่อนๆ ในขณะเดียวกันพวกตนยังได้รับการติดต่อจาก พ่อ ของครูผู้ก่อเหตุ ในลักษณะขอพบ เพื่อขอเคลียร์ แต่พวกตนไม่ขอพูดคุยด้วยต้องการให้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่ยังคงเกรงกลัวเกรงไม่ปลอดภัยเพราะครอบครัวผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีอิทธิพล ซึ่งทราบมาอีกว่าก่อนหน้านี้ ครูผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วแต่สามารถเคลียร์กับผู้เสียหายได้จึงไม่ถูกดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์สิริ ผกก.สภ.หนองแค กล่าวว่าในกรณีนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อนอยู่ที่พยานหลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ส่วนพนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อม รวมถึงการกู้รูปถ่ายจากโทรศัพท์ด้วย ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็จะให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ และชุดสืบสวนออกไปดูแลให้ คาดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิน 3 ผลัด(ฝากขัง) คงจะสามารถนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลให้ดำเนินคดีได้

ส่วน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภจว.สระบุรี กล่าวด้วยว่า กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สระบุรีพร้อมที่จะให้ความคุ้มครองดูแลประชาชน สำหรับคดีนี้ การกระทำความผิดในคดีเยาวชนที่อายุไม่ถึง 13 ปีมีอัตราโทษนี้ค่อนข้างสูง ในชั้นนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาว่า พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดา มารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร และการกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งใช้อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศเด็กนั้น

ซึ่งนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา กล่าวสรุปว่า เรื่องนี้ผู้ปกครองแม่ของเด็กผู้เสียหายมีความเกรงกลัวมากรวมถึงตัวเด็กๆนักเรียนด้วย จึงได้พากันไปร้องขอให้ตนเข้ามาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามตนต้องขอขอบคุณ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์สิริ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค ที่ดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว จนสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ส่วนในเรื่องอื่นๆ ได้ประสานกับทางกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยย้ายนักเรียนทั้ง 3 รายให้ไปเรียนที่อื่น ตามที่ผู้ปกครองร้องขอด้วย ในขณะเดียงกันเรื่องการดูแลเรื่องด้านสวัสดิการคงมอบให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรี หรือต้องการให้มูลนิธิฯ พาไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้นทางมูลนิธิฯก็ยินดี สิ่งสำคัญคือเรืองคดีตนขอให้มั่นใจได้ว่า ผู้กระทำความผิดต้องถูกกฏหมายดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ใครก็ปกป้องไม่ได้

และล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. ( 25 ส.ค.68) ร.ต.อ.สถิตย์พงษ์ ศรีอ่อน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองแคเจ้าของสำนวน ได้เบิกตัว นายสุทธิพงศ์ หรือครูเป้ ผู้ต้องหา จากห้องควบคุมบน สภ.หนองแค ไปฝากขังต่อศาล จ.สระบุรี โดย พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

พฤติการณ์และข้อเท็จจริงมูลแห่งคดีนี้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2568 ผู้ปกครอง แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.2 โรงเรียนวัดสหมิตรมงคล จำนวน 3 คน พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สถิตย์พงษ์ ศรีอ่อน ร้อยเวร สภ.หนองแค กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายสุทธิพงศ์ หรือครูเป้ ในข้อหา อนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ กับลูกสาวของพวกตน ขณะไปเรียนหนังสือ ต่างกรรมต่างวาระ แต่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน โดยหลอกล่อให้นักเรียนไปพบในห้องพักครูบ้าง ห้องนาฏศิลป์ และห้องเรียน หรือแล้วแต่สบโอกาส ขณะพักเที่ยง แล้วใช้เจลทางนิ้วล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศ หลายครั้งหลายหน นานนับปีตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.1 ถึงปัจจุบัน และหลังจากแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจแล้ว ต่อมาจึงได้พากันไปร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณา หงสกุล ให้ช่วยเหลืออีทางหนึ่ง จนกระทั่งมีการสืบสวน สอบสวนนำหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระบุรี รายงาน