วันที่ 23 สิงหาคม เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า พระราชวัชรพัฒนาทร หรือ พระณรงค์ โพธิ์กระทุ่ม อายุ 72 ปี เจ้าอาวาสวัดม่วง พร้อมทนายความ เดินทางมาพบ พงส.สน.เพชรเกษม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันแจ้งข้อความ อันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตามคดีอาญาที่ 405/68 ลง 13 สิงหาคม 2568
เจ้าอาวาสวัดม่วงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกปากคำและพิมพ์มือไว้ประกอบสำนวนการสอบสวนแล้ว เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 16.00 น. หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม นัดหมายในเวลา 14.00 น. พร้อมแจ้งข้อหานายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรวัดม่วง เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ภายในกุฏิเพื่อเก็บพยานหลักฐาน โดยมีรูปเจ้าอาวาสวัดม่วงชี้จุดที่เก็บเงินสดและทองคำ
ต่อมาวันที่ 2 กรกฎาคม, 15 กรกฎาคม, และ 4 สิงหาคม พนักงานสอบสวนสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดม่วงในฐานะผู้กล่าวหา จนพบว่าคำให้การมีการปกปิดและไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้
โดยในวันที่ 18 เมษายน 68 เจ้าอาวาสวัดม่วงและนายศักดา ไวยาวัจกร ได้นำทองคำหนัก 170 บาทไปขายที่บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ โดยนายศักดาเป็นผู้ทำธุรกรรมแทนเจ้าอาวาส แบ่งเป็นทองคำของเจ้าอาวาส 120 บาท (ทองแท่งหนัก 50 บาท 2 แท่ง และทองหนัก 20 บาท 1 แท่ง)
ประเด็นนี้ เจ้าอาวาสวัดม่วงยังไม่เคยให้การกับพนักงานสอบสวน ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงเดิมที่แจ้งว่า เงินสดและทองคำที่อ้างว่าหายไปนั้นจะเก็บไว้ใช้จ่ายการก่อสร้างและกิจกรรมภายในวัด หรือซื้อทองคำเพื่อเกร็งกำไรนำไปใช้จ่ายในวัด
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนพบข้อมูลจากโทรศัพท์นายศักดา มีภาพการขายทองคำแท่งหนัก 170 บาท, เช็คเงินสดจากธนาคารของบริษัท ฮั่วเซ่งเฮงฯ สั่งจ่ายนายศักดา และภาพวีดีโอจากมือถือนายศักดา ขณะนำเงินสดกว่า 5.2 ล้านบาทใส่กระเป๋าเดินทางส่งให้เจ้าอาวาสวัดม่วง พร้อมคลิปวีดีโอเจ้าอาวาสนั่งนับเงินสด
หลังพบหลักฐาน เจ้าหน้าที่เรียกนายศักดาไปสอบปากคำ แต่เขายังยืนยันว่าไม่ได้นำทองคำไปขาย จึงเข้าข่ายข้อความอันเป็นเท็จ ส่วนทรัพย์สินที่แจ้งว่าถูกลักทรัพย์นั้นมีจำนวนมากและเก็บไว้ในห้องที่มีกล้องวงจรปิดบันทึกตลอดเวลา แต่เจ้าอาวาสกลับนำวัสดุมาปิดหน้ากล้อง
ต่อมา พระนิทัศน์ ประเสริฐ เข้าพบพนักงานสอบสวนช่วยแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดม่วง และนายศักดา ในเรื่องแจ้งความและให้การอันเป็นเท็จ เพื่อดำเนินคดีต่อไป