จากกรณีดราม่า ยูทูบเบอร์สาว PEACHII แชร์ประสบการณ์กินไข่เจียวปูร้านดัง ซึ่งระบุราคาในเมนู 1,500 บาท แต่พอจ่ายจริงทางร้านกลับคิดค่าไข่เจียวปู 4,000 บาท ทั้งที่ไม่ได้สั่งพิเศษ อยู่ ๆ โดนอัปเกรดปูแบบไม่แจ้งล่วงหน้า จนกลายเป็นกระแสสังคมที่ถูกหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น ถึงขั้นหลายคนแนะนำให้แจ้ง สคบ. อีกด้วย
ล่าสุด วันที่ 20 ส.ค. 2568 พีช พิชญา หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ PEACHII โพสต์แจงยิบ กรณีประเด็นดรามาไข่เจียวปูเจ๊ไฝ ราคา 4,000 บาท ทั้งที่บนเมนูเขียน 1,500 บาท ว่า ตอนนี้ puzzle มันครบละค่ะทุกคน เข้าใจเหตุการณ์แล้วว่ามันเกิดเหตุการณ์ไข่เจียวปู 4,000 ได้ยังไง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคาดเดาต่างๆ นานาบานปลาย เลยขออนุญาตชี้แจงไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ตรงนี้นะคะ
1. รุ่นพี่คนไทยที่รู้จักกัน พาไปทานร้านเจ๊ไฝ
2. ไปกัน 3 คน มีรุ่นพี่คนไทย พีชชี่ มาร์ทา
3. รุ่นพี่เป็นคนสั่งอาหารทั้งหมด เพราะเป็นลูกค้าประจำ และมีเมนูแนะนำ
4. สั่งอาหาร 4 อย่าง: ไข่เจียวปู ราดหน้าหมู ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (จำชื่อเมนู exactly ไม่ได้) ข้าวผัดหมู เบียร์และน้ำเปล่า
5. ตอนสั่งอาหาร มีการสอบถามตัวเลือกเนื้อสัตว์ของเมนูอื่นๆ เช่น หมู ไก่ หรือ ซีฟู้ด ไม่ได้มีการถามอย่างอื่นว่าเอาแบบพิเศษไหม เอาเหมือนเดิมไหม
6. ระหว่างรออาหาร มีการดูเมนู พูดคุยถึงราคาอาหารกันกับรุ่นพี่คนไทย ว่าสมัยก่อนรุ่นพี่ทานตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนตอนนี้ ชี้ดูราคาบนเมนู 1,500 บาท (เป็นเหตุให้จำราคาได้)
7. ภาพรวมเป็นประสบการณ์ที่ดี อาหารอร่อยทุกอย่าง ลูกสาวเจ๊ไฝก็น่ารักกับโต๊ะเรา เสียงหวานบริการดี
8. เรียกเก็บเงิน ทางร้านวางบิลมา ราคา 7,750 บนบิลเห็นรายการไข่เจียวปู 4,000 บาทเลยเอะใจ
9. ถามกับรุ่นพี่ก่อน ว่าทำไมถึงเป็นราคานี้ ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ดูกันบนเมนูว่า 1,500 บาทหรอ ทุกคนงง
10. จึงขอเมนูมาดูอีกรอบ บางรายการเขียนเป็นช่วงราคา แต่ก็สังเกตได้ว่าราคาบนบิล ไม่ตรงกับเมนู เช่น ข้าวผัดหมูบนเมนู 400-500 บาท แต่ในบิล 1,000 บาท โดยเฉพาะไข่เจียวปู ที่เขียนเป็นราคาเดียวชัดเจนว่า 1,500 บาท
11. รุ่นพี่ก็ดูแปลกใจ เลยเรียกพนักงานมาสอบถาม ได้คำตอบในเชิงอธิบายว่าจานแบบ 4,000 บาทคือปูที่มาจากแหล่งที่ดีกว่าแบบราคา 1,500 บาท จะมีคุณภาพดีกว่า
12. รุ่นพี่จึงถามว่า ทำไมถึงทำแบบพิเศษมา พนักงานแจ้งในเชิงว่า ไม่แน่ใจ ต้องถามกับเจ๊ไฝ บางทีก็เพิ่มเอง ปกติเห็นครั้งก่อนรุ่นพี่ก็ทานแบบนี้ แต่รุ่นพี่ตอบกลับในทำนองว่า จริง ๆ ไม่ต้องพิเศษก็ได้
13. เจ๊ไฝและลูกสาว ไม่อยู่ตรงบริเวณด้านหน้าแล้วในเวลานั้น ทั้งหมดคุยกับพนักงาน
14. บทสนทนาทั้งหมด เกิดขึ้นแบบสุภาพ ออกแนวสับสน สงสัย แต่ไม่ได้มีการวิวาทหรือกิริยาที่ไม่ดี
15. สุดท้ายชำระเงินไป 7,750 บาท เพราะอาหารก็ทานไปแล้ว และสงสารมาร์ทา ที่ต้องนั่งรอ ดูคนไทยคุยกัน ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง
16. ออกจากร้านมา ได้คุยกับรุ่นพี่ต่อจึงทราบว่า ครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไม่เคยดูบิล เลยไม่เคยสังเกต - ตอนทวิตเรื่องนี้ก็อยู่ด้วยกัน รุ่นพี่ก็รับทราบ
17. ทุกคนรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นธรรมกับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประจำหรือไม่ ที่ไม่ได้สิทธิในการเลือกก่อนว่าวันนี้อยากทานแบบไหน โดยเฉพาะกรณีพาแขกคนอื่นมาทาน และในเมนูไม่มีเขียนแจ้งชัดเจน เพราะแต่ละคนอาจมีความต้องการไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ลูกค้าประจำเอง ก็อาจไม่ได้อยากทานแบบพิเศษในทุกครั้งไป บางวันอาจอยากทานน้อย บางวันอาจลืมพกเงินสดมามากพอ
(อย่างวันนั้นถ้าทราบก่อนก็อาจจะไม่เลือกทานแบบพิเศษทุกเมนู เพราะอิ่มกันมากๆ แล้ว กินมาตลอดวัน ต้องห่อกลับทุกรายการ)
18. รุ่นพี่แจ้งว่าจะกลับไปคุยฟีดแบ็กกับเจ้ไฝ ต่อมาเลยได้ทราบว่าเป็นราคาและรูปแบบอาหารแบบ VVIP ที่เสิร์ฟให้ประจำอยู่แล้วจริง แบบเห็นหน้าก็ทำให้แบบนี้เลยทันที ทำแบบนี้มาตลอด เพียงแต่เพราะรุ่นพี่ไม่เคยสังเกตบิล ไม่เคยรับรู้เรื่องราคาที่ต่าง เลยงงตอนถามกับพนักงาน และตอบคำถามพีชไม่ได้เรื่องนี้ ไม่มีเจตนาโกงหรืออัปราคา
19. ประกอบกับพนักงานเองก็ไม่ได้สื่อสารเรื่องราคา VVIP ให้ชัดเจน ว่ามีแฮปปี้มีลพิเศษสำหรับลูกค้าคนพิเศษอยู่ อธิบายแค่ความต่างของ ingredient เหมือนต่างคนต่าง assume กัน
20. ส่วนพีชงง สับสนในการจัดการของร้านอยู่ เพราะปกติอยู่เมืองนอกมา เขาไม่ทำกันแบบนี้ จะไม่มีการ assume เอง ต้องถามรีเช็กก่อนตลอด เอาแบบเดิมใช่ไหม? และลูกค้าต้องรับรู้ราคาและสินค้าที่จะได้ ว่าเหมือนหรือต่างกับปกติยังไง
21. ที่โพสต์บนโซเชียล ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร ไม่ว่าราคาปกติบนเมนู หรือราคาพิเศษก็สะดวกจ่ายถ้าได้รับการแจ้งก่อน แค่อยากแชร์ประสบการณ์ว่าเหตุการณ์แบบนี้อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เผื่อคนอื่นมาทานจะได้แจ้งก่อนว่าต้องการพิเศษหรือไม่ ไม่ต้องรอลุ้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเคยเห็นข่าวหรือมีข้อมูลเรื่องราคาพิเศษมาก่อน