ต้องบอกเลยว่ากลายเป็นเรื่องราวี่ถูกพูดถึงอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ เมื่อได้มี หญิงวัย 48 ปี อ้างเป็นร่างทรงถึงกับร้องไห้ฟูมฟายและทรุดตัวลงกับพื้น หลังจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรังเข้าแจ้งให้ย้ายออกจากบ้านพักอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นบ้านมรดกของยายที่อาศัยอยู่มานานกว่า 20 ปี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เมื่อ นางสาว ส. วัย 48 ปี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นร่างทรง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบังคับคดีให้ย้ายออกจากบ้านพัก ทำให้เจ้าตัวถึงกับเสียใจอย่างหนักและร้องไห้ฟูมฟาย
นางสาว ส. เปิดเผยว่า อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มานานกว่า 20 ปี ซึ่งที่ดินและบ้านเป็นมรดกของยายที่ได้ตกลงแบ่งให้ลูกหลานด้วยวาจา แต่ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากยายเสียชีวิต ที่ดินผืนนี้ตกเป็นของน้าสาว ทำให้เธอต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2566 แต่ยังคงใช้บ้านหลังนี้เป็นที่พักผ่อนเวลาเดินทางกลับมาที่จังหวัดตรัง
นางสาว ส. กล่าวด้วยความเสียใจว่า น้าสาวที่เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เล็กกลับฟ้องขับไล่และขนข้าวของของตนมากองทิ้งไว้จนเสียหาย สร้างความเสียใจให้ตนอย่างมาก
ขณะที่ฝ่ายน้าสาวได้ชี้แจงว่า ได้มีการแจ้งเตือนให้หลานสาวทราบล่วงหน้ามา 2 ปีแล้ว แต่ น.ส.สุนิสา กลับเพิกเฉย นอกจากนี้หลานสาวยังไม่เคยจ่ายค่าน้ำและค่าไฟเลยแม้แต่บาทเดียว และตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงต้องการขายบ้านหลังดังกล่าว แต่หลานสาวไม่ยอมย้ายออก จึงต้องตัดสินใจฟ้องขับไล่ในที่สุด