เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู เดินทางไปพบกับคุณ ตาพงษธร ขอสงวนนามสกุล อายุ 70 ปี ซึ่งนอนพักอยู่ในศาลาพักผู้โดยสารริมทางของถนนสุขุมวิทสายเก่า
ตรงทางเข้าวัดศรีจันทราราม ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ได้รับการประสานจากทีมข่าวว่ามีพลเมืองดีพบเจอคุณตาท่านนี้นอนพักอยู่ในศาลาริมทางแห่งนี้มาหลายคืนแล้ว
โดยทางคุณตาอ้างว่าถูกลูกไล่ออกจากบ้านและจ้างให้รถมาส่งและปล่อยทิ้งตนเองไว้ข้างทางจนต้องเดินมาหลบแดดฝนและอาศัยนอนในศาลาดังกล่าว จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบถุงกระสอบใส่เสื้อผ้าหลายชุดพร้อมกับหมอนผ้าห่มที่ติดตัวคุณตามา
คุณตาพงษธร บอกว่า ตนเองมาจากบางกรวยจำไม่ได้ว่าใครมาส่ง ที่ออกมาอยู่นี้ เพราะลูกสาวไล่ออกมา น้องสาวตนเป็นเจ้าของบ้านแต่เขาอยู่เมืองนอก ให้ลูกสาวตนเป็นคนเฝ้าบ้าน ตอนแรกน้องสาวตนเขาให้ตนมานอนเฝ้าบ้านเขา แล้วทีนี้เขาไม่ชอบตน
ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุ เขาหาว่าตนเป็นสมองตีบปากเบี้ยวแล้วรับไม่ได้ ตนป่วยมาได้มาได้ประมาณ 4 ปี ตนอยู่บ้านหลังดังกล่าวมาตั้งแต่วางมัดจำตนก็จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว น้องสาวไม่ให้ตนอยู่รังเกรียดหน้าตน อายแฟนเขาที่เป็นคนต่างชาติ ถ้าเขามาจากต่างประเทศ เขาก็เลยให้ตนออกมา ตอนนี้บ้านนั้นมีลูกสาวตนอยู่ ตนมีลูก 2 คน ลูกชายคนเล็ก อายุประมาณ 48-50 ปี และ ลูกสาวคนโต อายุประมาณ 50-52 ปี วันนั้นน้องสาวสั่งให้ลูกสาวตนให้เอาตนออกจากบ้านอายเขา
ตนก็จำไม่ค่อยได้แต่ถ้าตามความรู้สึกเขาเอาตนมาทิ้งตรงแยกไหนก็จำไม่ได้ แล้วก็เดินมานอนตรงนี้หลายวันแล้ว ส่วนข้าวปลาก็มีคนซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ แต่ก็อดมื้อกินมื้อ ตนไม่กล้าเข้าไปขอข้าวในวัดกลัวไปเบียดเบียนท่าน ตนจำเบอร์ของลูกไม่ได้เลย เมื่อก่อนน้องสาวมาเข้าตึกตนอยู่ พอน้องสาวคบกับแฟนเขาได้ปีกว่า น้องสาวก็ซื้อบ้านที่นน และ ส่วนตึกแถวของตนก็เซ้งไปแล้ว ก็เลยมาอยู่กับน้องสาว
ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำบอกกล่าวทางด้านคุณตา และเบื้องต้นรับตัวคุณตาไปพักที่ สภ.บางปู พร้อมทั้งหาข้าวและน้ำให้คุณตาได้ทาน โดยจะให้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางปู ตรวจสอบทะเบียนราษฎร์เพื่อติดต่อทางด้านลูกสาวและลูกชายของคุณตามาสอบปากคำหาเข้าเท็จจริงรวมถึงทางออกในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว สมุทรปราการ รายงาน