วันที่ 30 ธ.ค.2568 ที่ชายป่าสวนยางพารา หมู่บ้านโศกขามป้อม ตำบลภูผาหมอก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ใหญ่บ้านได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พึ่งกลับเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ขณะเข้าไปเก็บก้อนยางถ้วย พบเห็นหัวลูกปืนใหญ่ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ที่22 ให้รับทราบ ก่อนนำกำลังเข้ามาตรวจสอบ

พบว่าเป็นลูกปืนใหญ่ ที่ยิงเข้ามาจากฝั่งกัมพูชา มาตกแต่ยังไม่แตกระเบิด จึงได้เก็บกู้ตรวจสอบ ทำการจุดชนวนเพื่อการทำลาย โดยได้เก็บออกมาจากป่าสวนยาง เพราะหวั่นสวนยางจะเสียหาย เก็บออกมาที่กลางทุ่งหญ้า มีต้นไม้ยืนต้นที่กำลังจะตาย เป็นที่กำบัง จากนั้นได้ติดตั้งระบบจุดชนวนทำลาย เป็นผลสำเร็จ

เจ้าของสวนยางพาราที่พบลูกปืนใหญ่ เล่าว่า ตนว่าจ้างพี่คนในบ้านไปไถพวนดินในไร่มันฯ หลังจากกลับมาบ้านเมื่อวานนี้ ช่วงเย็นๆ ไปพบลูกปืนใหญ่ ก็เลยมาแจ้งตน ตนก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ตอนนี้พบเพียง 1 ลูก แต่ยังไม่ได้สำรวจทั้งหมด แต่เชื่อว่าน่าจะยังมีมากอยู่ ยังไม่กล้าที่จะเข้าไร่อยู่ตอนนี้

ด้าน พ.ต.ท.จารุบุตร เรืองศรี รองผกก.ตชด.ที่ 22 จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า วันนี้มีการตรวจสอบ อยู่ 3 จุด ในบริเวณใกล้เคียง และวันนี้เรามีการทำลายกระสุน แบบ พรส. ชนิด 82 มม.ที่ใช้ในการยิงต่อสู่รถถัง และทำลายบังเกอร์ ที่หลบภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร ตอนนี้เอามาทำลาย 3 ลูก น่าจะมาจากแนวยิงทิศทางเดียวกัน จากฝั่งกัมพูชา จากชายแดน ราว 2 กิโลเมตร เป็นระยะหวังผลของ พรส.ได้

เมื่อเช้าวันนี้ เราได้มีการประชุมวางแผน เพราะมีหลายจุด ก็อยากจะเตือนประชาชนที่กำลังเข้ามาในหมู่บ้าน ถ้าเจอก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน อย่าไปเก็บกู้เองเป็นอันขาด ขณะที่เบื้องต้นได้รับแจ้งรายงานว่ามีชาวบ้านที่พบเห็นหัวระเบิดที่ยังไม่แตกอีกหลายแห่ง บางจุดชาวบ้านเก็บไปไว้บ้านผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.แต่บางแห่งถ่ายรูปมาให้ดู เพื่อรอการเข้าไปสำรวจ เก็บกู้ทำลายต่อไป

ขณะที่จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.68 เกิดเหตุฝั่งกัมพูชา ยิงระเบิด BM-21 เข้ามายังเขตประเทศไทย บริเวณวัดป่าลานพยอมธรรมสถาน หมู่ 3 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ นายสมัย จันตียืน อายุ 49 ปี สมาชิกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตลงจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งพิธีบำเพ็ญกุศลศพจัดขึ้นที่ วัดมหาพุทธาราม (วัดพระโต) จังหวัดศรีสะเกษ

หลานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้ตายมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่อำเภอเบญจลักษ์ ก่อนจะย้ายไปมีครอบครัวที่ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ โดยก่อนเกิดเหตุไม่นาน นายสมัยได้เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติและเพื่อนฝูงที่บ้านเกิด พูดคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนเป็นการมาล่ำลา ก่อนจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ชรบ. ที่ตำบลเสาธงชัย และในวันรุ่งขึ้นก็ถูกสะเก็ดระเบิดจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยนายสมัยเป็นคนดี ชอบเข้าวัดทำบุญ และในวันเกิดเหตุก็เข้าไปทำบุญเนื่องในวันพระ แต่ระหว่างเดินออกจากวัดกลับมาถูกสะเก็ดระเบิดกัมพูชาถูกบริเวณศีรษะ เมื่อทราบข่าวก็ช็อกและยังทำใจไม่ได้ แม้จะเสียใจอย่างที่สุด แต่ก็ภูมิใจที่ผู้เป็นลุงทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังจนวินาทีสุดท้าย

ด้าน ชรบ.ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ กำลังจัดภัตตาหารถวายพระ และพระเพิ่งเริ่มฉันได้ประมาณ 2 นาที จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดตกลงภายในวัดอย่างกะทันหัน ตนจึงตะโกนบอกให้นายสมัยฯ หลบ พร้อมทั้งหมอบลงกับพื้น แต่คาดว่าผู้ตายอาจหลบไม่ทัน หรือเกิดเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้สะเก็ดระเบิดกระเด็นถูกบริเวณศีรษะจนล้มลง

จากนั้นทุกคนได้ช่วยกันประคองร่างผู้บาดเจ็บ ซึ่งในขณะนั้นมีอาการอ่อนแรงเหมือนจะหมดสติแล้วต่อมา เจ้าอาวาสได้สั่งให้ทุกคนเข้าหลบในบังเกอร์ และรีบประสานรถโรงพยาบาลเข้าช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บส่งรักษาเป็นการด่วน นายสมัยเป็นผู้มีอุปนิสัยดี ทำหน้าที่ ชรบ. ด้วยความเสียสละ มีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลชาวบ้าน ส่งอาหารและน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดน และคอยรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง