วันที่ 22 ธ.ค. 2568 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (21 ธ.ค.) ศูนย์กู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้รับแจ้งจาก นายปิยะ กาศเกษม ผญบ.ห้วยไร่ ม.2 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ว่า นายเดช อายุ 73 ปี และ นางหลั่น อายุ 70 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านห้วยไร่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย หายออกจากบ้านไปสวนทุเรียนในป่าบ้านหนองน้ำเขียว ต.ด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ เบื้องต้นทราบว่า เสียชีวิต 1 ราย หายไป 1 ราย จึงประสานทีม จนท.กู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ ร่วมกับกู้ภัยด่านนาขาม และกู้ภัยหมอนไม้ จ.อุตรดิตถ์ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันที

เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ทั้งสองสามีภรรยา ออกจากบ้านไปสวนทุเรียนตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.68 แล้วไม่กลับเข้าบ้าน ญาติๆ จึงได้ออกตามหา โดยเข้าไปตามหาที่สวนอยู่ในป่าเขตติดต่อ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย กับ ม.12 หนองน้ำเขียว ป่าชำตอง ขุนสิงห์ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 10 กิโลเมตร จนพบร่างผู้เสียชีวิตคือ นายเดช สามี เสียชีวิตในสวน ส่วนนางหลั่น อายุ 70 ปี ภรรยา ซึ่งป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ได้หายตัวไปไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด

จากนั้นจึงประสาน พ.ต.ต.เอกพงศ์ ตุ่นกอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และรายงานให้ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ทราบ จากนั้นจึงร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ แพทย์เวร รพ.อุตรดิตถ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต พบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อสีเขียว มีเสื้อแขนยาวทับ ลักษณะขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกินกว่า 2 วัน ไม่พบร่องรอยการฆาตกรรม การตรวจสอบในสวนทุเรียน พบถังยาอยู่ใกล้ห้างนา และพบรถของนายเดช เปิดประตูฝั่งคนขับทิ้งไว้ ส่วนภรรยาได้หายตัวไป

จากการสอบถามชาวบ้านที่คุ้นเคยทราบว่า นายเดช เป็นคนมีน้ำใจ หากทุเรียนออกก็จะแบ่งปันให้ชาวบ้าน และเอามาแจกให้เพื่อนบ้านเสมอ นอกจากนั้น ยังเป็นคนขยัน มักจะมาดูสวนทุเรียนบ่อยๆ จนคุ้นชินกับชาวบ้านแถวนี้ หากพาภรรยาไปสวนด้วยจะให้ภรรยานั่งในรถ และจะซื้อน้ำซื้อขนมไว้ให้กินในรถ เพราะนางหลั่น เป็นโรคอัลไซเมอร์ หากออกจากจุดที่อยู่ จะกลับไม่ได้ นายเดช จึงต้องให้อยู่แต่ในรถ เพื่อไม่ให้ภรรยาหายตัวไปไหน

ทางด้านเจ้าหน้าที่และแพทย์เวร ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือการฆาตกรรม จึงให้กู้ภัยนำร่างกลับบ้านให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามกฎหมาย ส่วนนางหลั่น ภรรยาที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านต่างปูพรมเดินค้นหาทั่วทั้งสวนก็ยังไม่พบ จึงทำการยกเลิกภารกิจเวลา 17.30 น. เนื่องจากไม่ได้เตรียมไฟมา และทีมงานไม่ชินกับสภาพป่า ในวันที่ 22 ธ.ค. จึงจะร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ และญาติๆ มาช่วยกันตามหา นางหลั่นอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน หรือมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งจะต้องตามหากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มี นายเดช และ นางหลั่น 2 ผัวเมีย ชาวบ้านห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เข้าสวนไป 4 วัน และญาติๆ ติดตามตัวไม่ได้ โทรไปไม่มีใครรับ หลังจากเดินทางไปสวนทุเรียนในป่าบ้านหนองน้ำเขียว ต.ด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ต่อมา นายปิยะ กาศเกษม ผญบ.ห้วยไร่ ม.2 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ พร้อมญาติๆ ผู้สูญหาย เดินทางไปตามที่สวน พบว่า นายเดชฯ สามี เสียชีวิต 1 ราย ส่วน นางหลั่นฯ ที่เป็นภรรยา มีอาการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ หายตัวไปโดยไม่ทราบทิศทาง

ต่อมา ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.68 นายปิยะฯ ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ตร.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ สมาคมกู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานจากจังหวัดอุตรดิตถ์ และอีกหลายหน่วยงาน บูรณาการเข้าทำการค้นหา นางหลั่นฯ ที่เป็นภรรยาที่หายตัวไป จากนั้น เวลา 12.30 น. ชุดค้นหาพบร่าง ยายหลั่น อายุ 70 ปี จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำ ของสวนเพื่อนบ้าน ห่างจากจุดที่พบศพ นายเดชฯ ไประมาณ 500 เมตร

เบื้องต้นชุดค้นหา พบร่องรอยการเดินของยายหลั่น เดินขึ้นสันเขา ก่อนจะจับต้นไม้พลาดไหลตกเขา จากนั้น มีรอยเดินไปยังสระน้ำที่ใช้สูบน้ำเข้าสวนทุเรียนของเพื่อนบ้าน ที่สวนติดกัน มีร่องรอยข้อศอกอยู่พื้นดิน และพบว่าต้นกล้วยข้างสระล้มลงในสระ คาดว่า นางหลั่น จะเดินมาพิงต้นกล้วย แต่รับน้ำหนักไม่ไหวจึงล้มลงในสระทั้งคนทั้งต้นกล้วย จากนั้น ทีมประดาน้ำ มูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ ร่วมกับทีมประดาน้ำสมาคมกู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ ทำการลงค้นหาภายในน้ำ พบร่างในสระ จึงนำขึ้นมา ดำเนินการแจ้งตำรวจร้อยเวร และแพทย์เวร มาชันสูตรที่เกิดเหตุ และนำร่างกลับภูมิลำเนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุตรดิตถ์ รายงาน