วันที่ 16 ธ.ค. 68 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.อิทธินันท์ บุตรสุด รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านเมืองแก ว่ามีคนรมควันในรถกระบะเสียชีวิตที่กลางทุ่งนา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.นันทสิทธิ์ เล่งน้อย สารวัตรใหญ่ สภ.ชุมแสง และกู้ภัยวังกรูดสตึก กู้ชีพ อบต.เมืองแก
ที่เกิดเหตุบริเวณทุ่งนา อยู่ทางทิศตะวันตกบ้านหนองกรูด หมู่ที่ 10 ต.เมืองแก ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถยนต์กระบะแค็ป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บพ 8937 มหาสารคาม จอดติดเครื่องยนต์อยู่ ตรวจสอบภายในรถพบศพชายทราบชื่อต่อมานายพงศ์เทพ หรือเสี่ยโอ จันทร์สม อายุ 41 ปี ชาว ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นนักธุรกิจขายปุ๋ยและอุปกรณ์ทางการเกษตร นอนเสียชีวิตลักษณะปรับเบาะเอนนอนอยู่ฝั่งคนขับ

หลังเบาะคนนั่งข้างพบเตาอั้งโล่ที่ใช้ก่อไฟโดยไฟได้มอดหมดแล้ว ภายในรถยังพบกระป๋องเบียร์ ซึ่งเปิดดื่มไปแล้วจำนวน 1 กระป๋อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย หลังท้ายรถกระบะยังพบถ่านที่ใช้ก่อไฟวางอยู่ 1 ถุง สภาพศพผู้เสียชีวิตเริ่มแข็งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 - 6 ชั่วโมง

จากการสอบถามนายเมธนี ศรีชาคำ อายุ 20 ปี เป็นลูกจ้างผู้เสียชีวิตและเป็นคนพบศพคนแรกเล่าว่า ตนเองออกมาหาหนูนาตามทุ่งนา เห็นรถยนต์กระบะจอดติดเครื่องไว้นานผิดสังเกต จึงเดินมาดูพบว่าเป็นรถของนายจ้าง จึงเปิดประตูรถเข้าไปดูพบว่านายพงศ์เทพ นายจ้างเสียชีวิตแล้ว โดยสภาพศพเริ่มแข็ง เท่าที่ทราบผู้ตายขับรถยนต์ออกจากร้านไปตั้งแต่ช่วงเช้าแต่ไม่รู้ว่าไปทางไหน

ขณะที่นางสุนารี ไมตรีแพน อายุ 41 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายพงศ์เทพ ผู้เสียชีวิตประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าเครื่องมือทางการเกษตรในหมู่บ้าน สามีเป็นคนชอบยิงปืน ซื้อปืนขนาด 9 มม.มาแบบถูกต้องตามกฎหมาย และมักจะไปซ้อมยิงปืนที่ทุ่งนาของตัวเองเป็นประจำ
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา สามีมาเล่าให้ตนเองฟังว่า มีตำรวจ สภ.ชุมแสง มาหาถึงบ้านแจ้งว่ามีวัวชาวบ้านถูกยิงxาย อยากจะให้สามีตนไปให้การที่โรงพักพร้อมอาวุธปืน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นมูลเหตุให้สามีเครียดเพราะไม่เคยต้องคดีมาก่อน จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีปัญหา
ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน