อุบัติเหตุรุนแรง! เสียชีวิต 2 เจ็บ 3 กลุ่มรถ จยย. ขี่ด้วยความเร็ว เกี่ยวกันล้มชนสนั่นถนน
ข่าวภูมิภาค

อุบัติเหตุรุนแรง! เสียชีวิต 2 เจ็บ 3 กลุ่มรถ จยย. ขี่ด้วยความเร็ว เกี่ยวกันล้มชนสนั่นถนน

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2568 ศูนย์กู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุหมู่รถจักรยานยนต์เกิดเหตุหลายคัน มีผู้บาดเจ็บหลายราย อาการสาหัส และมีเพลิงลุกไหม้รถคันเกิดเหตุ เหตุเกิดบนถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ สาย 3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงสั่งการรถโรงพยาบาลใกล้เคียง จำนวน 3 คัน พร้อมด้วยรถกู้ชีพและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ พร้อมประสานรถดับเพลิงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าระงับเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบทั้งรถและตัวผู้บาดเจ็บจำนวนหลายรายนอนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น จนต้องปิดกั้นการจราจรโดยเด็ดขาดเป็นการชั่วคราว เพื่อเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด

โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บทั้งหมด รวม 5 ราย อาการสาหัสทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องทำการ CPR ยื้อชีวิตผู้บาดเจ็บ ซึ่งมี 4 ราย อาการหนัก แต่สุดท้ายพบว่ามีสองรายที่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่ต้องปั้มหัวใจนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการด่วน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุพบว่าทั้งหมดมีด้วยกัน 4 คัน หนึ่งใน 4 คันเป็นรถจักรยานยนต์ที่เกิดเพลิงลุกไหม้ขณะเกิดเหตุ ส่วนที่เหลือจอดกันกระจัดกระจายใกล้ที่เกิดเหตุ

หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย จึงร่วมกับแพทย์นิติเวชรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ร่วมกันชันสูจน์พลิกศพร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองราย รายแรกคือ นางสาวอภิณัชญา โคกคะจันทร์ อายุ 32 ปี อีกราย คือ นางสาวพรพิมล ทาสี อายุ 32 ปี เช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายส่งไปยังนิติเวชรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์เพื่อชันสูจน์อย่างละเอียด และประสานทางญาติติดต่อรับศพไปดำเนินการตามประเพณี

นายสตายุ วงสวาท อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า ช่วงประมาณเที่ยงคืนครึ่งได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ มีอุบัติเหตุที่สนามบินสุวรรณภูมิสายสาม พอมาถึงที่เกิดเหตุพบคนเจ็บนอนอยู่ 3 ราย อาการสาหัส จึงขอรถแอดวานซ์มาที่เกิดเหตุ และเจอไฟไหม้ 1 คัน ระหว่างที่ช่วยผู้บาดเจ็บ 3 ราย ได้มีคนมาแจ้งว่าผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย จึงได้ขอกำลังเพิ่ม

ทางด้าน นายจิระพงศ์ อายุ 30 ปี บอกว่า ตนเองและเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คัน กลับมาจากไปมิตติ้งที่กรุงเทพกรีฑา ขี่กันมา 4-5 คัน กำลังจะกลับบ้านที่ปิ่นเกล้า เหมือนรถคันข้างหน้าเขาควันแล้วระเบิด พวกตนขี่ตามหลังเขามา หลบไม่ทันเลยเกี่ยวกัน ตอนที่เขาล้มอยู่กลางถนน ตนพยายามหลบแล้ว แต่เขาไถลมาหาจึงทำให้พุ่งชนอย่างจัง

ขณะที่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มรถจักรยานยนต์ทั้งหมดมากันเป็นกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มในจังหวัดสมุทรปราการ ขับขี่กันมาประมาณ 3-4 คัน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักย่านสมุทรปราการ ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มย่านปิ่นเกล้า ซึ่งขับขี่กันมาประมาณ 4-5 คัน ทั้งหมดพากันกลับมาจากงานมิดติ้งย่านกรุงเทพกรีฑา และกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้านของแต่ละคน พอมาถึงที่เกิดเหตุ กลุ่มรถจักรยานยนต์ฝั่งของสมุทรปราการ เกิดเสียหลักเกี่ยวกันเองจนรถล้มกลางถนน ทำให้กลุ่มของผู้เสียชีวิตที่ขับขี่และซ้อนท้ายกันมาตามหลัง เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนกันไปคนละทิศคนทาง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมกับผู้บาดเจ็บที่ไม่สาหัสและยังพอให้การได้ พร้อมทั้งจะประสานศูนย์สุวรรณภูมิไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุ ว่าสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นมาอย่างไร เพื่อสรุปสำนวนคดีและพิจารณาดำเนินคิดตามกฎหมาย แต่หากตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า เป็นการแข่งขันหรือประลองความเร็วกัน ก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาหนักเพิ่มอีกเช่นกัน ทั้งนี้จะต้องรอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน

ข่าวที่คุณอาจสนใจ