เรือเหล็กบรรทุกยิปซั่ม 5 พันตัน ชนบ้านริมน้ำเกาะเกร็ดพัง 3 หลัง เสาไฟฟ้าขาด 1 ต้น คนขับเรืออ้าง พวงมาลัยขัดข้องกระแสน้ำแรง
ข่าวภูมิภาค

เรือเหล็กบรรทุกยิปซั่ม 5 พันตัน ชนบ้านริมน้ำเกาะเกร็ดพัง 3 หลัง เสาไฟฟ้าขาด 1 ต้น คนขับเรืออ้าง พวงมาลัยขัดข้องกระแสน้ำแรง

จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก ข่าวสาร-คนเกาะเกร็ด โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 บริเวณหมู่ 5 ริมน้ำแถวท่าเรือประมง ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. เกิดอุบัติเหตุเรือหัวลากสำหรับลากจูงเรือบรรทุกทราย พุ่งชนบ้านเรือนประชาชนริมน้ำจำจำจำนวน 3 หลัง เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บ้านทั้งสามหลังได้รับความเสียหาย และมีสมาชิกในครัวเรือนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เดินทางลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 27, 27/1 และ27/2 หมู่ 5 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และเสาไฟฟ้า ที่ได้รับความเสียหายจากเรือเหล็กลากจูงชน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 18 พ.ย.68

พบว่าบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 3 หลัง หมู่ 5  ต.เกาะเกร็ด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดสาลีโข ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด อยู่ในสภาพได้รับความเสียหาย บ้านบางหลังพังลงไปในน้ำทั้งหลัง ทราบชื่อเจ้าของบ้านเลขที่ 27 คือ นางอำภา จันทร์สว่าง อายุ 86 ปี, บ้านเลขที่ 27/1 คือ นายไพรัช รอดเจียม อายุ 66 ปี และบ้านเลขที่ 27/2 คือ น.ส.สมพร คุ้มวาณิชย์ อายุ 68 ปี นอกจากนี้ยังพบเสาไฟฟ้าขาดอีก 1 ต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน ส่วนคนขับเรือลากจูงทราบชื่อคือ นายสาคร มะคะวัน อายุ 30 ปี

จากการสอบถามคนขับเรือ ให้การว่า พวงมาลัยเรือเกิดขัดข้อง ไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ประกอบกับกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลแรง ทำให้ควบคุมเรือตอนเกิดเหตุไม่ได้จนพุ่งเข้าชนบ้านเรือนริมน้ำ ตนยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เสพสารเสพติด และไม่ได้หลับใน โดยตนพร้อมที่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นแม้ว่าทางบริษัทเจ้าของเรือจะให้ตนเป็นฝ่ายรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม

ทางด้านภรรยาของคนขับเรือ กล่าวว่า ตนกับสามีล่องเรือขนแผ่นยิปซั่มน้ำหนักประมาณ 5 พันตันจากอยุธยาไปส่งที่ย่านบางนา โดยออกเรือมาตอน 6 โมงเย็น ระหว่างที่เรือขับมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่าพวงมาลัยเกิดขัดข้องบังคับไม่ได้ และกระแสน้ำในแม่น้ำมีความแรง ทำให้เรือเสียหลักพุ่งเข้าชนกับบ้านที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วตนกับสามีก็พร้อมจะรับผิดชอบ แม้ว่าทางบริษัท จะให้สามีซึ่งเป็นคนขับเรือ รับผิดชอบแทนก็ตาม

จากการสอบถามนายไพรัช รอดเจียม หนึ่งในเจ้าของบ้าน เล่าว่า ช่วงเวชาตี 1 ตนและคนในบ้านกำหลับนอน ได้ยินเสียงโครมครามแต่ไม่รู้คืออะไร จึงลุกมาดูถึงทราบว่าเรือชนพบว่าน้ำได้เข้าท่วมบ้านจนถึงระดับหน้าอก ตนตกใจมาก สภาพบ้านพังหมดตนต้องหนีออกทางหน้าต่างบ้าน มองอะไรไม่ค่อยเห็นเพราะสายตาไม่ดี หลังออกมาได้พบว่าเรือเหล็กขนาดใหญ่พุ่งชนพังบ้านพังไปทั้งหลัง แต่ที่บ้านตนอยู่อาศัยเพียง 2 คน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะหนีออกมาทัน  บ้านเพิ่งจะทำใหม่ราคาที่ก่อสร้างไปประมาณ 7 - 8 ล้าน

หลังเกิดเหตุได้คุยกับคนขับเรือซึ่งเขาบอกจะรับผิดชอบให้ แต่ถ้าบริษัทไม่รับผิดชอบคนขับเรือจะไปเอาที่ไหน ส่วนประกันภัยตนไม่ทราบว่ามีหรือไม่ หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่โรงพักพร้อมกัน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นคนขับเรือบอกว่าพวงมาลัยขัดข้อง บังคับเรือไม่ได้ สำหรับเรื่องกระแสน้ำแรงหรือไม่นั้นตนก็ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง้หมือนกัน เหตุเรือชนครั้งบ้านตนเกิดเป็นครั้งที่ 2 แล้วส่วนบ้านเพื่อนบ้านครั้งนั้นเสียหาย 2 ล้านกว่า เพราะเครื่องใช้ในบ้านเสียหายจมน้ำทั้งหมดเอาออกมาไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางกรมเจ้าท่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนนายสาคร คนขับเรืออย่างละเอียดอีกครั้ง โดยพบว่าเข้าข่ายขับขี่เรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน