จากกรณีเมื่อช่วงเวลา 21.35 น. วันที่ 16 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายว่า ถูกคนร้ายชิงเงินที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งภายใน ซอยลาดปลาเค้า 77 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ได้เงินไป 200,000 บาท หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจเเละปฏิบัติการพิเศษ 191 เข้าตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายผู้เสียหายแต่งตัวใส่เกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลม ยืนรอ ให้การอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ แต่จากการสอบถามข้อมูล ผู้เสียหาย ให้การวกวนไปมา จากนั้น ฝ่ายสืบสวนจึงได้เชิญตัวชายผู้เสียหาย มาสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ

ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องโกหก หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ก็ไปพบผู้เสียหาย ซึ่งรออยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายให้การวกวน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ไม่พบว่ามีการก่อเหตุดังกล่าว พอผู้เสียหายจำนนต่อหลักฐาน ก็กลายเป็นผู้ต้องหา เพราะถือเป็นการกระทำผิดข้อหาแจ้งความเท็จ จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดี

จากการตรวจสอบยังพบว่า ผู้เสียหายเป็นชาย อายุ 19 ปี เป็นชาวอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (เป็นชาติพันธ์แต่มีบัตรประชาชน) ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นลูกจ้างอยู่บริษัทโซลาร์เซลล์ จากนั้น ก็เดินทางมาหางานทำที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งให้การรับสารภาพว่า กุเรื่องดังกล่าวขึ้นมา แต่ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร จึงดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ โดยจะส่งตัวให้พนักงานอัยการสั่งฟ้อง และส่งฟ้องศาลตามลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจึงฝากเตือนประชาชนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า การกุเรื่องแจ้งเหตุนั้น เป็นความผิดทางคดีอาญาที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงอยากให้ดูกรณีนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร รายงาน