วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยพันจ่าเอก อนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ฉุกเฉิน บริเวณสะพานศิริโยธาพัฒนา ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีตขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำชี เชื่อมระหว่างบ้านดอนขะยอม ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร และบ้านดอนคำ ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด หลังได้รับรายงานว่า สะพานมีการทรุดตัวเพิ่มเติม สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยมีนายประวิทย์ อาจหาญ ผู้แทนจากแขวงทางหลวงชนบทยโสธร ตลอดจนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสงเปือย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูล

โดยจากการตรวจสอบพบว่า สะพานศิริโยธาพัฒนาแห่งนี้ เปิดใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2543 ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 17 ล้านบาท มีความยาว 180 เมตร ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการสัญจรและขนส่งสินค้าของประชาชนทั้งสองจังหวัดมานานกว่า 25 ปี และประชาชนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรงก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พบว่าบริเวณตอม่อที่ 4 ซึ่งอยู่ในร่องน้ำลึกถูกน้ำกัดเซาะดินใต้ฐานราก

อีกทั้งมีเศษซากต้นไม้และกอไผ่ขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำพัดมาติดค้างอยู่ที่เสาสะพานเป็นจำนวนมาก กลายเป็นอุปสรรคขวางทางน้ำและเพิ่มแรงปะทะจนตอม่อรับน้ำหนักไม่ไหวจนเกิดการทรุดตัวลงในที่สุด โดยปัจจุบันตอม่อเสาสะพานต้นที่ 4 มีการทรุดตัวลงจากระดับปกติแล้วประมาณ 12 เซนติเมตร ซึ่งแขวงทางหลวงชนบทยโสธรที่รับผิดชอบได้มีการรายงานผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปทราบ พร้อมมีการส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่ตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยง และวางแผนเตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา รวมถึงมีการนำป้ายแจ้งเตือน สะพานชำรุด และ ห้ามรถบรรทุกหนักผ่าน มาติดตั้งแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ โดยอนุญาตให้เฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านไปมาได้ด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ ภายหลังรับทราบข้อมูลทั้งหมด นายขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้มีข้อสั่งการเร่งด่วน โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ประกอบด้วย ให้ อ.คำเขื่อนแก้ว ประสานงานกับ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทั้งสองฝั่งให้รับทราบสถานการณ์และใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวังสูงสุด ขณะเดียวกันก็ให้จัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนและป้องปรามรถบรรทุกหนักที่ยังคงลักลอบข้ามสะพานในช่วงกลางคืนอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สะพานทรุดตัวเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต

อีกทั้งได้มอบหมายให้แขวงทางหลวงชนบทยโสธร ตรวจวัดการทรุดตัวของสะพานอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลให้จังหวัดและประชาชนทราบเป็นระยะ หากตรวจพบว่าสะพานทรุดตัวถึง 20 เซนติเมตร ให้ดำเนินการปิดสะพานทันที ห้ามยานพาหนะทุกชนิดผ่านโดยไม่มีข้อยกเว้น สำหรับการซ่อมบำรุงขอให้แขวงทางหลวงชนบทยโสธรเร่งประสานของบประมาณเพื่อเข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคืนความปลอดภัยในการสัญจรให้กับประชาชนโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดยโสธร รายงาน