เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย เมียนมา ด้าน แม่สอด จ.ตาก เมื่อกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดศึกรุกฆาต กองกำลังติดอาวุธกระเหรี่ยงและกองกำลังประชาชนพีดีเอฟ มาอย่างหนักต่อเนื่องตลอด 1 ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา มีการใช้อาวุธสนับสนุนทั้งจรวดนำวิถีใกล้ ขนาด 8 ลำกล้องและอาวุธทางอากาศ กดดันกำลังฝ่ายต่อต้าน

มีการปะทะกันด้วยอาวุธปืนประจำกาย จรวดอาร์พีจีย์ อย่างต่อเนื่อง เสียงปืนได้ยินชัดเจนจากฝั่งไทย มีทหาร ชาวบ้านในฝั่งเมียนมา ตั้งแต่บ้าน เลเกก่อ บ้านมินละป่าน บ้านผาลู ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด ทั้งหมด ในระยะ สองสามวันที่ผ่านมา กองกำลังกระเหรี่ยงหนีถอยมาตั้งที่มั่นริมตะเข็บน้ำเมย ตามแนวชายหาดแม่น้ำเมยในฝั่งเมียนมา เมียวดีตอนใต้ มีการปะทะกันอย่างหนักแบบแลกเป็นแลกตาย ส่งผลทำให้กระสุนนานาชนิดปลิวว่อนมาตกใส่หมู่บ้านในฝั่งไทยหลายนัด

ล่าสุด ชาวบ้านแม่โกนแกน ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด ต้องผวาชนิดหลับไม่ลง โดยเฉพาะที่บ้านของนางน้อย จันทร์งาม อายุ 64 ปี ที่อยู่ 216 หมู่ 9 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลา 4.44 น.ได้ตื่นมาเข้าห้องน้ำและได้ยินเสียงกระสุนปืนเสียงดังป๊าบๆๆ เลยตกใจเรียกหลาน พอหลานมาเลยเปิดประตูห้องน้ำออกมาดู ปรากฏว่าลูกกระสุนทราบต่อมาคือกระสุนขนาด 12.7 เป็นกระสุนที่ใหญ่กว่ากระสุนปืนกล เป็นกระสุนต่อต้านอากาศยานหรือ กตอ. ข้ามมาตกยังฝั่งไทย บางบ้านตกใส่หลังคา ตกบนที่นอนของชาวบ้าน ซึ่งสร้างความตระหนกให้กับชาวบ้านคนไทย

นางน้อย จันทร์งาม เล่าพร้อมอาการปาดน้ำตาและเสียงสั่นเครือว่า กระสุนที่ยิงพลาดเข้ามาฝั่งไทยในครั้งนี้ตั้งแต่ตนเกิดมาครั้งนี้เป็นครั้งแรกยังไม่เคยเจอเหตุการณืแบบนี้มาก่อนรู้สึกตกใจกลัว เพราะเสียงกระสุนนี่ดังมากๆ ซึ่งยายน้อยเองก็เป็นโรคหัวใจด้วย

นายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด เปิดเผยว่า ช่วง 1-2 วันมานี้มีประชาชนที่มีลูกกระสุนตกใส่บ้าน จำนวน 22 หลังอยู่ที่หมู่ 9 จำนวน 12 หลัง หมู่ 4 จำนวน 2 หลัง หมู่ที่ 2 จำนวน 5 หลัง หมู่ที่1 จำนวน 1 หลัง ในพื้นที่ ตำบลมหาวันและที่ หมู่ 1 ตำบลแม่กุอีกจำนวน 2 หลังด้วยกัน ในวันนี้ก็ร่วมกันกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด กิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนูและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ได้ติดตามสถานการณ์เกิดผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนคนไทย จึงลงพื้นที่มาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจชาวบ้าน

สำหรับมาตรการทางอำเภอแม่สอดได้ร่วมกันกับทหารราชมนูลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนของทหารได้ทำหนังสือประท้วงผ่านทางคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-เมียนมาหรือเจบีซี เพื่อให้ทราบถึงผลกระทบต่อการสู้รบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนชาวไทย โชคดีที่ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นหลังคาทางทหารก็จะได้นำกระเบื้องมุงหลังคามาซ่อมให้ กรณีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบให้แจ้งความเดือดร้อนไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้านได้เลยทันที

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ทีการรายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า กองทัพเมียนมาประกาศจะปฏิบัติการอ่องเซยะ ขจัดโจรก่อการร้ายกระเหรี่ยงให้สิ้นซาก เนื่องจากสร้างความลำบากให้กับชาวบ้านมายาวนานจากการปิดเส้นทางการค้า การเดินทาง เมียวดี กอกาเรก ในรัฐกระเหรี่ยงอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงาน