จากกรณีอุบัติเหตุสะเทือนใจที่ ส.ต.ท.จักรพงษ์ พุทธเสน หรือ หมู่จักร ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.เมืองหนองคาย เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจเหตุวัยรุ่นรวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยถูกหญิงวัย 30 ปี ขับรถกระบะชนประสานงา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 หญิงคนขับรถกระบะคู่กรณีได้เดินทางไปที่วัดเพื่อร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของ ส.ต.ท.จักรพงษ์ ณ ต.ท่าวัด อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น พร้อมกับเข้าขอขมาและกล่าวคำขอโทษต่อบิดามารดาและภรรยาของ หมู่จักร ด้วยน้ำตา ขอโทษพี่เขา เขามีลูกน้อยแค่ 3 เดือน คิดดูหัวอกคนเป็นแม่จะอยู่อย่างไร ลูกเขาเพิ่งเกิด หญิงคนขับกระบะกล่าวทั้งน้ำตาด้วยความสำนึกผิดและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน ภรรยาของ ส.ต.ท.จักรพงษ์ เปิดเผยว่า หญิงคนขับรถกระบะได้กล่าวคำขอโทษที่ตนทำไป ตนไม่ได้ตั้งใจฟังรายละเอียดมากนัก แต่หญิงคนดังกล่าวพยายามจะกราบขอโทษตน แต่ตนได้บอกไปว่า ไม่ต้องกราบ ตนรับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ภรรยาของหมู่จักรได้กล่าวว่า ให้อภัย และ ไม่ต้องการให้เขามีอะไรติดค้างกับคนที่เสียชีวิต ก็เลิกแล้วต่อกัน สิ่งเหล่านี้ไม่อยากให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งบอกอีกว่า คราวหน้าไม่ควรที่จะทำอย่างนี้ เพราะก่อความเสียหายให้กับครอบครัวคนอื่น ซึ่งคู่กรณีก็ยอมรับและขอโทษ

ภรรยาของ ส.ต.ท.จักรพงษ์ ยังได้เปิดเผยทั้งนํ้าตาถึงความตั้งใจและอนาคตที่กำลังรอคอยสามีว่า หมู่จักร เพิ่งสำเร็จการศึกษาคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกำลังจะเข้าพิธีรับปริญญาในปีหน้า โดยเขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสอบเป็น นายตำรวจ เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีในการเลี้ยงดูลูกวัย 3 เดือน และดูแลพ่อแม่ ในการสอบครั้งก่อนเขาพลาดไปเพียง 1 คะแนน และกำลังอยู่ในช่วงที่ขะมักเขม้นอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบอีกครั้ง ซึ่งความฝันทั้งหมดต้องมาจบลงอย่างน่าเศร้าจากอุบัติเหตุครั้งนี้

หมู่จักรเคยบอกว่า ถ้าลูกชายโตขึ้น อยากให้เป็นตำรวจเหมือนพ่อ อยากให้เป็นนายร้อย จะส่งให้เรียนสูง ๆ ให้เป็นนายร้อย ไม่อยากให้เป็นยศสิบตำรวจเหมือนพ่อ ภรรยาเล่าทั้งน้ำตา