เมื่อเวลา 7.30 น. วันที่ 13 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ รถกู้ชีพกู้ภัยของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลบ้านแม่จันทะ กับภารกิจส่งเด็กทารกวัยเพียง 5 เดือนป่วยด้วยอาการหอบรุนแรง เพื่อส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลอำเภออุ้มผาง ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางสาว วรนุช กรธนาภาส เจ้าหน้าที่พยาบาลสุขศาลาพระราชทาน ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่าในเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ ( 8 ต.ค.68 ) ได้มีชาวบ้านนำเด็กทารกวัยเพียงแค่ 5 เดือน ป่วยด้วยอาการหอบ ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลบ้านแม่จันทะ ได้พ่นยาไปแล้ว 3 รอบแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ไปสอบถามแพทยืประจำโรงพยาบาลอุ้มผาง ได้อนุญาตให้ส่งต่อผู้ป่วยไปยังไปรักษาต่อยัง โรงพยาบาลอุ้มผาง จึงเริ่มออกเดินทางจากบ้านแม่จันทะ ไปยัง รพ.สต.หม่องกั๊วะ แต่ระหว่างทางรถพยาบาลดันติดหล่มกลางป่าลึกกว่า 4 ชั่วโมง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีสัญญาณวิทยุ จะติดต่อใครก็ไม่ได้ แถมระบบไฟรถยังเสีย ทำให้เครื่องช่วยหายใจใช้ไม่ได้ เด็กเริ่มงอแง เหนื่อยมากขึ้น
ระหว่างนั้นโชคดีที่มีชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา จึงขอความช่วยเหลือ ให้พาทีมพยาบาลซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ไปขอความช่วยเหลือจาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล หม่องกั๊วะ จนในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านต่างมาช่วยกันเต็มที่ ทั้งเอาข้าวเอาน้ำมาให้ พยายามใช้รถไถดึงรถพยาบาลแต่ก็ไม่ขยับ สุดท้ายมีชาวบ้านใจดีอาสาขับรถส่วนตัวรับเด็กน้อย 5 เดือน ไปส่งถึงจุดนัดพบกับรถพยาบาลอีกคัน จนพาเด็กถึงมือหมอได้อย่างปลอดภัย
ส่วนทางพนักงานขับรถในคืนนั้นต้องนอนเฝ้ารถรีเฟอร์รับส่งผู้ป่วยกลางทางที่ติดหล่มคนเดียวทั้งคืน เพราะมีความหวังว่าหากมีรถผ่านมาอาจช่วยกันดึงรถให้ถอยกลับไปทางด้านหลังได้ เพราะไม่สามารถดึงหรือดันรถไปทางด้านหน้าได้แล้ว ดินโคลนลึกมิดล้อรถ
ทางเจ้าหน้าที่พยาบาล นางสาววรนุช บอกเพิ่มเติมว่า เธอตั้งใจกลับมาทำงานที่บ้านเกิด เพื่อดูแลคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเจอถนนโคลน ฝนตก หรือเส้นทางลำบากแค่ไหน ก็จะไม่หยุดเส้นทางบ้านแม่จันทะไปจนถึงอำเภออุ้มผาง เป็นถนนที่ตั้งอยู่ในเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แต่วอนขอว่าอย่างน้อยๆก็อยากให้การเดินทาง เข้า-ออกของชาวบ้านได้รับความสะดวกขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะการรับส่งนักเรียน และเวลามีการส่งคนไข้ฉุกเฉิน เพราะเราไม่ได้ส่งคนไข้เพียงแค่2-3ราย แต่เราต้องส่งคนไข้ทุกเดือนๆละ 3-4 ราย ถนนหนทางแย่ที่สุดทุกปี ในช่วงฤดูฝน ยิ่งปีนี้หนักสุด
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงาน