วันที่ 10 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ สนธิกำลังเข้าปิดล้อมทุ่งนาป่ากก ท้องที่หมู่ 2 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไล่ล่า นายป้อม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฉุดเด็กหญิงวัย 13 ปี ไปข่มขืนในป่าละเมาะ ก่อนเด็กหญิงกลับบ้านอยู่ในสภาพมอมแมมเปื้อนโคลนทั้งตัว แล้วร้องไห้ออกมา บอกยายว่าถูก นายป้อม กระทำชำเราในป่า และขู่ว่าถ้าบอกใครจะฆ่าให้ตาย
ต่อมายายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และนำตัวเด็กไปส่ง รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ส่วน นายป้อม หลังก่อเหตุยังอยู่ที่บ้านตามปกติ กระทั่งตำรวจเข้าจับกุม ปรากฎว่าขณะนำตัวขึ้นรถเพื่อส่งโรงพัก นายป้อม ได้สะบัดมือแล้ววิ่งหลบหนีลงไปในป่ากกกลางทุ่งนา ตำรวจพร้อมชาวบ้านนับ 100 คน ร่วมกันเข้าปิดล้อมนานกว่า 2 ชั่วโมง ในที่สุดก็พบ นายป้อม คลานอยู่ในป่ากก จึงเข้าจับกุม ชาวบ้านแค้นพยายามประชาทัณฑ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กันไว้
อย่างไรก็ตามขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปที่รถ ปรากฏว่าชาวบ้านที่มีความโกรธแค้นได้แหวกเจ้าหน้าที่เข้าไปซัด นายป้อม คนละหมัดสองหมัดจนอ่วม จนตำรวจต้องพาตัววิ่งขึ้นรถของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจไปที่โรงพัก ขณะชาวบ้านส่งเสียงสาปแช่งและด่าทอ เนื่องจากเด็กหญิงที่ถูกกระทำนั้นพ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่ จึงอาศัยอยู่กับยาย และเด็กเป็นญาติภรรยาของ นายป้อม ด้วย
สำหรับประวัติว่า นายป้อม เพิ่งพ้นโทษคดีข่มขืน และคดียาเสพติด ที่ ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีศักดิ์เป็นน้าเขยของเด็กหญิง ขณะชาวบ้านยืนยันว่า นายป้อม ติดยาเสพติด กลางคืนมักใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านมาโดยตลอด และก่อนก่อเหตุ ยายให้เด็กไปซื้อข้าวสารแต่หายไปนานนับชั่วโมง จึงตามหาและพบว่าเด็กถูกกระทำดังกล่าว