วันที่ 8 ต.ค. 2568 ขณะที่ พ.ต.ท.นิรุตน์ กองสี พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.หล่มสัก ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังรับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างมงคลศรัทธาธรรมสถานเพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่าง พบคราบเลือดจำนวนมาก ทั้งบนพื้นและผนังบ้าน มีรอยเลือดเป็นทางขึ้นไปบนชั้นสอง โดยมีรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดบริเวณเสาใกล้บันไดขึ้นบ้าน บนชั้นสองพบผู้เสียชีวิต สภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอห้อยกับขื่อหลังคาบ้าน มีเลือดไหลซึมออกจากแผล ที่บริเวณหน้าท้องจำนวนหลายจุด ทราบชื่อต่อมาคือ นายโยธิน บัวแดง อายุ 44 ปี ชาวอำเภอหล่มสัก

ต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพชรบูรณ์ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณหน้าท้องรวม 7 แผล ลักษณะการเกิดเหตุไม่ชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตทำร้ายตนเองก่อนผูกคอ หรือ ถูกผู้อื่นทำร้ายแล้วนำมาจัดฉากอำพราง

จากการสอบถาม ผู้พบศพคนแรก ทราบว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่เพียงลำพังในช่วงเกิดเหตุ ได้มาหาผู้เสียชีวิตที่บ้าน แต่ไม่พบ แต่เห็นว่ามีคราบเลือดอยู่กับพื้นและราวบันได จึงได้เดินขึ้นไปดูและพบว่าห้องนอนของผู้เสียชีวิตล็อคจากด้านใน จึงตัดสินใจงัดเข้าไป พบว่าเจ้าตัวผูกคอเสียชีวิตแล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผกก.สภ.หล่มสัก เปิดเผยว่า จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้เสียชีวิตไม่มีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มีอาการวิตกอยู่ตลอดเวลาว่า จะมีคนมาทำร้าย และมีอาการคล้ายเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์ เมื่อวานผู้เสียชีวิตได้ไปใส่บาตรทำบุญที่วัด ซึ่งก็ยังเป็นที่สงสัยของญาติๆ เพราะตามปกติผู้เสียชีวิตจะไม่ชอบไปทำบุญ และเมื่อวานก็ยังได้นั่งพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ฟังว่า พ่อที่เสียชีวิตไปแล้วมาชวนไปอยู่ด้วย แต่ญาติๆ ก็ไม่เฉลียวใจแต่อย่างใด จนถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่มจึงได้แยกย้ายกัน กระทั่งเช้าวันนี้ ก็มาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น พบมีทำครัวปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม.ตกอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกนั้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรืองัดแงะใดๆ คาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจจะหลอนจึงใช้มีดทำร้ายตัวเองและผูกคอจนเสียชีวิต ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นฆาตรกรรมอำพราง จึงได้ส่งร่างของผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตร พร้อมทั้งตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตกับมีดที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์ รายงาน