เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 11.30 น. นายณัฐพงศ์ อรชร และนายเศรษฐาพัฒน์ เจริญเศรษฐโสธร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้สื่อข่าวช่องทีวีอัมรินทร์ ช่องวัน 31 และช่องท็อปนิวส์ทีวี ได้เดินทางมายังวัดสิงห์คูยางและวัดแก้วจัทราราม ซึ่งเป็นวัดของอดีตเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะ ตำบลโคกสำโรง เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

กรณีมีเฟซบุ๊กปลอมของเมืองโคราช ชื่อว่า เพจโคราชบ้านเอ็ง ลงข่าวโพสต์ของนามแฝงว่า เจ้าหญิงขี่ม้าขาว ได้ลงรูปผู้สื่อข่าว ขณะมาสัมภาษณ์อดีตเจ้าคณะอำเภอชื่อว่า พระครูภัทรปัญญาวุธ และพระครูรัตน์จันทราภิรมย์ ใส่ร้ายกลุ่มผู้สื่อข่าวที่มีรูปของเพจที่โพสต์ว่า มารีดเงินพระ ทำให้สื่อมวลชนในรูปเกิดความาสียหายอย่างหนัก สังคมตราหน้าว่า เป็นบุคคลไม่ดี

วันนี้ทางสื่อมวลชนที่ถูกกล่าวหาเดินทางมาพบกับพระทั้งสองรูปและทำความเข้าใจว่า ที่ทางพระมอบหมายให้ลูกศิษย์แจ้งความนั้น เป็นแค่เรื่องคลิปวิดีโอ หากสื่อนำไปเผยแพร่เกิดความเสีย แต่ทางสื่อก็มิได้นำคลิปข่าวไปเผยแพร่แต่อย่างใด เพราะไม่มีมูลความจริงและได้ให้ลูกศิษย์ถอนบันทึกแจ้งความเป็นอันเข้าใจทั้งสองฝ่ายว่า มิได้มาขอเงินพระแต่อย่างใด  

ทางด้านนายสราวุธ บำรุงวุธ ผู้ลงบันทึกประจำวันได้กล่าวว่า การสัมภาษณ์ข่าวในครั้งนั้น เป็นเพียงสอบถามข้อมูลจากทางวัดเท่านั้น มิได้มีการเรียกรับเงินทองจากพระทั้งสองรูปแต่อย่างใด ตนก็แค่ไปลงบันทึกประจำวันเอาไวั เนื่องจากคลิปวิดีโอสามารถใช้ AI ดัดแปลงคำพูดได้ เกรงว่าจะเกิดการบิดเบือนข้อมูลขึ้นทางวัดจะเสียหาย แต่ทางวัดไม่มีการแจ้งความว่า มาขอเงินพระแต่อย่างใด ทุกคนต่างเข้าใจกันดี จึงถอนแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

นายสราวุธฯ กล่าวต่อว่า ขอแนะนำใครที่ทำเฟซบุ๊กปลอมกล่าวหาทำให้เกิดความเสียหายให้ไปแจ้งความเอาผิดกับทุกๆ คนที่พูดกล่าวและแชร์ หากมีหลักฐานจะดำเนินคดี รวมทั้งกรณีที่ใส่ร้ายว่า ทางช่องข่าวไล่ออกนั้น นายณัฐพงศ์ ยืนยันว่า ตนลาออกเองทางช่องข่าวมิได้ถูกไล่ออกแต่อย่างใด การลาออกเพื่อเปิดทางให้ทางช่องเข้าสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ตอนนี้ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะไม่มีการยอมความแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา รายงาน