สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างต่อเนื่อง หลังการระบายน้ำจาก เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ที่อัตรา 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มวลน้ำไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยระดับน้ำใน แม่น้ำน้อย และ คลองสาขา มีระดับสูงขึ้นเฉลี่ย 5-10 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ย่างเข้าเดือนที่ 3 แล้ว บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 2-4 เมตร ชาวบ้านต้องหนุนพื้นบ้านจนเกือบถึงหลังคา และมีเพียง ถนนสายหลัก เท่านั้นที่ยังโผล่พ้นน้ำ โดยเจ้าหน้าที่แขวงการทางกำลังเร่งทำแนวป้องกันน้ำไหลข้ามถนน

ที่บ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 2 ต.บ้านกระทุ่ม หญิงวัย 56 ปี และสามีวัย 68 ปี ซึ่ง ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องเผชิญกับน้ำที่ท่วมตัวบ้านสูงกว่า 1 เมตร จนต้องงัดพื้นบ้านเพื่อหนุนที่นอนให้อยู่ในระดับหน้าต่าง เจ้าของบ้านเล่าทั้งน้ำตาว่า ชีวิตลำบากมาก ทุกวันนี้ไม่เคยนอนหลับ เพราะ กลัวน้ำจะขึ้นถึงศีรษะ มองไปรอบบ้านมีแต่น้ำ

การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้อง พายเรือ เพื่อพาผู้ป่วยไปหาหมอ และยังมี น้องชายที่ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องดูแลด้วย ส่วนเวลาจะเข้าห้องน้ำ ก็ต้องพายเรือออกไปใช้ส้วมชั่วคราวที่สร้างไว้บนถนนเท่านั้น ด้าน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.หัวเวียง กล่าวว่า ชุมชนในตำบลหัวเวียงและบ้านกระทุ่มถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง ถนนสายหลัก ที่กลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้ชาวบ้านบางส่วนนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัตว์เลี้ยงมาหนีน้ำ และเป็นจุดเดียวที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปทำงานหรือออกมาซื้ออาหารมากักตุน

ถนนสายนี้ยังเป็น ศูนย์กลางการกระจายความช่วยเหลือ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน หากถนนสายนี้ถูกน้ำท่วมเมื่อใด ชุมชนทั้งหมดจะถูก ตัดขาดจากโลกภายนอก ทันที ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือและการใช้ชีวิตของผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างวิกฤตมากขึ้น