แดงเถือก! กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพื้นที่สีแดง เสี่ยงพายุฝนถล่มหนัก 6-15 ต.ค. นี้
ข่าวภูมิภาค

แดงเถือก! กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพื้นที่สีแดง เสี่ยงพายุฝนถล่มหนัก 6-15 ต.ค. นี้

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา โดยระบุว่า อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น และลมที่ระดับ 850hPa 1.5 กม.10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 6 - 15 ต.ค. 68 จากแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD-WRFDA) เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย

ช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบริเวณ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งรวมถึงจังหวัด หนองคาย บึงกาฬ เลย น่าน เชียงราย และพะเยา

สาเหตุจาก หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุ แมตโม (MATMO) แผ่ปกคลุมบริเวณเวียดนาม สปป.ลาว และบางส่วนของประเทศไทย ขณะเดียวกัน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ด้านรับมรสุม เช่น ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง) และ ภาคตะวันออก (จันทบุรี ตราด) มีฝนตกหนักบางแห่ง หน่วยงานด้านภัยพิบัติและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจึงควรเฝ้าระวัง ฝนตกหนัก-ฝนสะสม ที่อาจก่อให้เกิด น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ได้ในช่วงนี้

ในช่วงวันที่ 9-15 ตุลาคม 2568 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณตอนล่างของประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะใน ภาคกลางตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาคใต้ ทั้งนี้ พื้นที่ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และ ลุ่มน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มเผชิญน้ำสูงขึ้น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทั้ง น้ำเหนือที่ไหลบ่า ฝนตกต่อเนื่อง และน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงเดียวกัน

ทั้งนี้ ในช่วงปลายสัปดาห์ หลังวันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นไป ปริมาณฝนใน ภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน จะเริ่มลดลง ขณะเดียวกันจะเริ่มมีสัญญาณของ ลมตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ พัดลงมาแทนที่ ซึ่งเป็นสัญญาณของ มวลอากาศเย็นจากจีนเริ่มแผ่ลงสู่ประเทศไทย

สถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วง เปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว โดยจะมีลักษณะอากาศแบบ ฝนตอนเช้า ร้อนกลางวัน และเย็นในตอนค่ำ ประชาชนควรดูแลสุขภาพและติดตามการประกาศพยากรณ์อากาศล่าสุดจาก กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง