(1 ต.ค.68) ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ช่วงตี 1 กลางดึกที่ผ่านมา ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาหลักลายคอนกรีตขาว-ดำข้างทาง เสียชีวิต 2 ราย บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมือง สายบ้านท่าควาย-บ้านน้อยหนองเค็ม ก่อนถึงร้านสะดวกซื้อใกล้หมู่บ้านจัดสรร เขตเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม จึงประสาน พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทร์ สารวัตรปราบปราม (สวป.) หัวหน้าชุดอัสนี , ตำรวจสายสืบชุดพยัคฆ์ , แพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม , เจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนมจุดเมือง และกู้ภัยศรีสัตตนครพนม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า wave 110i สีส้มดำ ทะเบียน XXญ - XX55 นครพนม ล้มคว่ำอยู่ขอบถนนใกล้เสาหลักลาย พบชาย 2 คนนอนเสียชีวิตเคียงข้างกัน ทราบชื่อต่อมาคือ นายญาณวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี และ ด.ช.ณัฐดนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ทั้งคู่เป็นเครือญาติกันอยู่ ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม 

โดยสภาพร่างของนายวุฒิ (นานสมมติ) กะโหลกศีรษะแตก บนอกมือยังคาอยู่ที่โทรศัพท์คล้ายจะกดโทร ส่วน ด.ช.วัย 14 ปี คอหักหมุนได้ และมีไม้กระถินยาวประมาณ 1 ศอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิต เพิ่งกลับจากดูคอนเสิร์ตในศาลากลางจังหวัดฯ งานประเพณีไหลเรือไฟประจำปี 2568 หลังจากนั้น ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยมีเพื่อนหมู่บ้านเดียวกันวิ่งตามกันมาห่างๆ 

จากคำบอกเล่าของพยาน ให้ข้อมูลว่า ขณะนายวุฒิ ที่มี ด.ช.ณัฐดนัย นั่งซ้อนท้าย ขับขี่รถกินลมในยามดึก มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ มาด้วยกันประมาณ 5 คัน มีคันหนึ่งคนซ้อนท้ายถือไม้กระถินไล่ทำร้าย นายวุฒิ (นานสมมติ) จึงเร่งเครื่องรถขี่หลบหนี และเสียหลักขับรถพุ่งชนเสาหลักลายข้างทาง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความสะใจของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และยังไล่บี้เพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้เสียชีวิต ไปทางถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 มุ่งหน้าไป อ.ท่าอุเทน

หลังทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ติดตามไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 พบวัยรุ่นจับกลุ่มกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ทราบต่อมาว่า เป็นกลุ่มเดียวกับผู้เสียชีวิต โดยขี่รถจักรยานยนต์หนีตาย วิ่งมาขอความช่วยเหลือคนละแวกนี้ ส่วนวัยรุ่นที่ไล่ทำร้ายเห็นมีคนเยอะ ได้ขี่รถเข้าไปใต้สะพานมิตรภาพ 

จากนั้น ชุดอัสนีจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.วางแผนล้อมวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาสอบปากคำ สามารถควบคุมตัวได้จำนวน 11 คน อายุระหว่าง 12-18 ปี หนึ่งในนั้นมีกะเทย 1 คน อายุ 16 ปี ตั้งตนเป็นหัวโจก ที่รวมกลุ่มกันจากหลายหมู่บ้าน

กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 11 คน ได้ให้การไปในทางเดียวกันว่า ได้มีเรื่องกันกับผู้เสียหายซึ่งอยู่ บ้านรามราช และได้ขี่รถไล่กันไปในเส้นทางที่เกิดเหตุ และรถของผู้เสชีวิตเกิดเสียหลักล้มลงข้างทาง จากนั้นพวกตนก็ขี่หลบหนีไป กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามมาควบคุมตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทร์ สวป.สภ.นครพนม สอบถามต่อว่า เคยมีเรื่องกับกลุ่มผู้เสียชีวิตมาก่อนหรือไม่ ทั้ง 11 คนตอบว่า ไม่เคยรู้จักกัน ทำไปด้วยความคึกคะนอง