วันที่ 28 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีรถกระบะพุ่งชนลุงที่มานั่งพักในวัดจนขาขาดทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเที่ยงวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ภายในบริเวณวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย หลังเกิดเหตุทาง ร.ต.อ.จิรายุส นันทนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุ จึงไปลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ตัวผู้บาดเจ็บถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่ รพ.
โดยจากการตรวจสอบพื้นที่พบว่าผู้บาดเจ็บ (เสียชีวิตในภายหลัง) คือ นายสุภัช อายุ 68 ปี ที่อยู่ ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ถูกชนจนร่างกระเด็นไปอัดกับคิ้วล้อด้านหลังขวาของรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีส้ม ทะเบียน เชียงราย จนรถได้รับความเสียหาย ผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือนำส่ง รพ.ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง ส่วนรถคู่กรณีคือรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน เชียงราย มีร่องรอยการชนที่ด้านหน้ารถ มีเจ้าของรถรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อคือ นางอติมา อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่ ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่จุดเกิดเหตุพบร่องรอยการชนที่ใต้ต้นมะดัน ใกล้กับจุดกลับรถภายในวัด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนสอบสวน
หลังเกิดเหตุ ได้มีการไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดพบว่า รถกระบะของผู้ก่อเหตุได้ขับวนอ้อมต้นโพธิ์ซึ่งเป็นจุดกลับรถ แต่รถคันก่อเหตุกลับขับพุ่งตรงไปชนนายสุภัชที่นั่งพักอยู่ที่ใต้ต้นมะดัน และรถคันดังกล่าวยังขับถอยออกมาก่อนจะเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าชนจุดเดิมอีกครั้ง จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และในเฟสบุ๊กของผู้ใช้ชื่อ "Naruepanat Kandathanasiri" ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต ก็ได้โพสต์คลิประบายถึงการสูญเสียพ่อ และตัดพ้อคู่กรณีที่ไม่ยอมรับสาย ไม่ออกมาแสดงความเสียใจ หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ แถมบอกว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจ และบอกว่าคนก่อเหตุเป็นฆาตกร แถมยังขอให้คนก่อเหตุออกมาแสดงตัวรับผิดชอบกับความผิดที่ก่อขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ อยู่ติดกับกาดหลวง เขตเทศบาลนครเชียงราย พบว่าที่จุดเกิดเหตุยังมีร่องรอยการชนและรอยเลือดของผู้เสียชีวิตอยู่ โดยจากการสอบถามคนในวัดทราบว่าคนถูกชนเสียชีวิตได้มาซื้อของกับเมีย โดยทีแรกจะนั่งรอเมียอยู่ที่ฝั่งหน้าวิหาร แต่ตอนก่อเกิดเหตุมีแดดแรง ลุงก็เลยย้ายไปนั่งใต้ต้นมะดันด้านข้างวิหาร ซึ่งห่างจากจุดจอดรถประมาณ 20 ม. จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น และจากการสอบถาม น.ส.มะลิวัลย์ เจ้าของรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ คันที่จอดใต้ต้นมะดัน ซึ่งถูกลุงผู้เสียชีวิตกระเด็นมาโดนจนได้รับความเสียหาย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนขายของอยู่ที่ตลาด ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่มีลูกจ้างวิ่งมาตาม บอกว่าเกิดอุบัติเหตุในวัดและรถตนได้รับความเสียหายก็เลยมาดู พบว่าคิ้วล้อหลังด้านขวาแตกเสียหาย มีรอยเลือดและเศษชิ้นเนื้อของลุงคนโดนชนติดอยู่ แต่ลุงที่โดนชนถูกนำส่ง รพ.ไปก่อนแล้ว จากการสอบถามคนก่อเหตุซึ่งเป็นผู้หญิง พบว่ายังมีอาการตื่นตกใจ นั่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกกับตนว่ารถเบรคไม่อยู่ ก็เลยพุ่งไปชนใต้ต้นไม้ ทีแรกเขายังไม่รู้ว่าชนโดนคนได้รับบาดเจ็บเลย แต่เขาก็บอกกับตนว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เขาก็ยินดีชดใช้ให้ เพราะรถเขามีประกันอยู่ ก็ต้องรอให้ประกันทั้ง 2 ฝ่ายเขาคุยกันก่อน ส่วนคนก่อเหตุและคนถูกชนตนเคยเห็นว่ามาซื้อของที่ตลาดบ่อยๆ โดยฝ่ายลุงมักจะมาซื้อของกับเมีย และจะนั่งรอเมียอยู่ในวัด แต่ตนก็ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกับทั้งคู่แต่อย่างใด
และจากการสอบถามกับนายนฤปนาค อายุ 30 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า พ่อไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับใคร เป็นที่รักของคนที่รู้จัก โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย. พ่อไปซื้อของที่กาดหลวงเชียงรายกับแม่ โดยพ่อนั่งรอที่ในวัด ก่อนที่จะโดนคู่กรณีขับมาชนเมื่อช่วงเที่ยง และถูกนำตัวส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ทีมแพทย์พยายามช่วยปั้มหัวใจเพื่อช่วยเหลือ แต่เนื่องจากพ่อเสียเลือดมาก จึงทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณบ่าย 3 ของวันเดียวกัน ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักคู่กรณี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน อยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบ อย่าหนีปัญหาโดยการไม่รับสาย และหลังจากนี้ทางญาติจะนำศพของพ่อมาประกอบพิธีตามประเพณีจีนที่บ้านใน ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย โดยจะมีพิธีฝังศพในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. นี้
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวจังหวัด เชียงราย รายงาน