เกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่บานปลายจนถึงขั้นมีการใช้รถยนต์พุ่งชนใส่กันและทำร้ายร่างกายจนมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งริมถนนอยุธยา-เสนา ต.บ้านป้อม เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 กันยายน 2568 โดยมีคลิปวิดีโอจากพลเมืองดีบันทึกเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้ไว้ได้
ร.ต.อ.สามารถ รักษาสัตย์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่ามีการชกต่อย โต้เถียง และใช้รถยนต์ชนใส่กันเสียงดังสนั่น จนรถยนต์ของทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหาย และยังชนเสาไฟฟ้าจนทรัพย์สินราชการเสียหาย
ในที่เกิดเหตุพบเพียงเศษซากชิ้นส่วนรถยนต์กระจายเกลื่อน แต่พบรถยนต์คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้เดินทางไปที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งความ โดยพบรถยนต์ โตโยต้า สีขาว (รถของเจ้าของร้าน) ด้านหน้าพังเสียหาย และรถกระบะ นิสสัน สีดำ (รถของลูกค้า) ด้านข้างประตูคนขับและท้ายขวาพังเสียหาย กระจกหลังแตกทะลุ และพบ ก้อนอิฐตัวหนอนขนาดใหญ่ อยู่ภายในรถ
นายยศศักดิ์พล อายุ 32 ปี (ลูกค้าและเจ้าของรถกระบะ) ให้การว่า ตนเองและครอบครัวซึ่งมีพ่อแม่ ภรรยา และลูกเล็ก 3 คน เดินทางมาร้านอาหาร ขณะที่ตนกำลังนำรถเข็นเด็กออกจากท้ายรถ เป็นจังหวะที่เจ้าของร้านขับรถเข้ามาจอดพอดี ตนเห็นว่าอาจเกิดอันตรายต่อคนในครอบครัว จึงได้เข้าไปเตือนให้ระมัดระวัง จนเกิดการโต้เถียงและทะเลาะวิวาทกัน
ด้านกลุ่มเจ้าของร้าน นายเหนือ อายุ 27 ปี และ นายต๊ะ อายุ 33 ปี ให้การว่า นายเหนือกำลังจะถอยรถเข้าจอด แต่รถของคู่กรณีซึ่งเป็นลูกค้านั้นจอดในลักษณะเฉียงขวางอยู่ นายต๊ะจึงมาช่วยถอยรถให้ โดยอ้างว่ามีการโบกรถและมีกล้องมองหลัง ซึ่งไม่น่าจะเกิดอันตรายกับลูกค้าที่กำลังเดินเข้าร้าน
กลุ่มเจ้าของร้านระบุว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาต่อว่าเรื่องการถอยรถ จึงเกิดการโต้เถียงและท้าทายกันไปมา จนนำไปสู่การชกต่อย โดย พ่อของนายเหนือ ได้ออกมาห้ามปรามแต่กลับ ถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกของแข็งทุบที่หน้าอก และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ก่อนเตรียมย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางปะกอก กรุงเทพฯ
จากนั้นเหตุการณ์จึงบานปลายเป็นความรุนแรงตามคลิปวิดีโอ ที่มีการใช้รถยนต์ของทั้งสองฝ่าย พุ่งชนและถอยชนกันอย่างดุเดือด จนรถพังยับเยิน เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ให้บริษัทประกันภัยเข้ามาตรวจสอบความเสียหายของรถและที่เกิดเหตุ พร้อมเตรียมเรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อการทำให้เสียทรัพย์และการทำร้ายร่างกาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป