สลด! หญิงวัย 53 ปี ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต หลังนั่งเล่นหน้าบ้าน
ข่าวภูมิภาค

สลด! หญิงวัย 53 ปี ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต หลังนั่งเล่นหน้าบ้าน

เมื่อเวลา 18.39 น. ของวันที่ 21 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 ได้เข้าตรวจสอบเหตุสลดภายในชุมชนการเคหะ ซอย 24 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงถูกรถกระบะทับเสียชีวิต

ที่เกิดเหตุพบร่างของ นาง ป. อายุ 53 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถกระบะ สภาพร่างมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะและบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะนำร่างส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชต่อไป

ในที่เกิดเหตุพบ นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าว ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยท่าทีนิ่งเฉย ไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณแอ๊พ ลูกสาวของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุทันทีที่ทราบข่าว คุณแอ๊พเล่าว่าแม่ของตนเองคบหากับแฟนใหม่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกันถาวร โดยปกติแล้วแฟนใหม่จะขับรถมาส่งที่บ้าน แต่เมื่อแม่ไม่กลับบ้านในเย็นวันนั้นก็รู้สึกเอะใจ จนมาทราบข่าวว่าแม่ถูกน้องชายของแฟนใหม่ขับรถกระบะทับเสียชีวิต

คุณแอ๊พยังกล่าวด้วยความเจ็บปวดว่าทั้งครอบครัวไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากคนขับรถและแฟนใหม่ของแม่เลย คนขับรถมีท่าทีนิ่งเฉย ยืนกอดอก และไม่เอ่ยคำขอโทษสักคำ มีเพียงแค่พูดว่า ไม่เห็น และ ข้างหน้าไม่มีรอยชนนะ ทำให้เธอรู้สึกติดใจและไม่แน่ใจว่าคนขับพยายามจะสื่ออะไรกันแน่ เธอรู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ด้านนายอภิวิชญ์ ตั้งเรืองสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ท้องรถกระบะ ซึ่งถูกยกรถขึ้นด้วยแม่แรงก่อนจะนำร่างออกมาได้ และพบว่าผู้เสียชีวิตมีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ที่ศีรษะและบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตได้ออกมานั่งเล่นอยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน ในขณะที่รถกระบะได้เลี้ยวเข้ามาในซอยเพื่อจะจอดหน้าบ้าน โดยคนขับอ้างว่ามองไม่เห็นว่าผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ จนขับรถทับและได้ยินเสียง จึงรีบนำแม่แรงมายกรถขึ้น แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา