ผู้เสียหายร้อง บก.ปคบ. เอาผิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างทิ้ง งานมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้าน
ข่าวภูมิภาค

ผู้เสียหายร้อง บก.ปคบ. เอาผิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างทิ้ง งานมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้าน

วันที่ 18 ก.ย.68 ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กลุ่มผู้เสียหายจำนวนกว่า 50 คน เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่รับงานก่อสร้างบ้าน ราคาหลังละ 3-10 ล้านบาท แต่ทิ้งงานไปรับลูกค้ารายใหม่ทั้งที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

นางสรัญญา สงวนนามสกุล  อายุ 50 เปิดเผยว่า ต้องการสร้างบ้าน จึงหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจนพบกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างบริษัทหนึ่งผ่านทางโซเชียล ได้มีการเข้าไปติดตามดูรีวิวพบว่ามีรีวิวดีมีการส่งมอบบ้านจริง จึงทำให้เกิดความเชื่อใจ จึงได้ติดต่อไปที่บริษัทดังกล่าวเพื่อขอสร้างบ้านโดยได้มีการทำสัญญาจ้าง ทั้งหมด 14 เดือนจะต้องแล้วเสร็จ และส่งมอบบ้านในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มูลค่าการก่อสร้าง 4.7 ล้านบาท โดยทางบริษัทได้มีการเบิกเงินไปแล้ว 4 ล้านบาท 

ปรากฏว่าหลังจากสัญญาหมดไปแล้ว 7 เดือน  บ้านก็ยังสร้างไม่เสร็จเป็นบ้านโล่ง มีแต่โครงสร้าง ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่หน้าต่าง ประตูก็ยังไม่มี ช่างก็ไม่เข้ามาทำงาน ในช่วงแรกได้มีการโทรไปร้องเรียนที่เบอร์กลางของบริษัท ฝ่ายแรกที่คุยคือฝ่ายขายจากการพูดคุยได้รับคำตอบว่าทางบริษัทจะไปประสานงานให้ และจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน แต่ก็เหมือนเป็นการติดต่อไปฝ่ายเดียว เพราะทางบริษัทไม่มีความคืบหน้ากลับมาให้ และมีการพูดคุยกันล่าสุด คือต้องแล้วเสร็จ และต้องส่งมอบบ้านภายในสิ้นเดือนกันยายน 68 ถ้าหากยังไม่แล้วเสร็จตนเองจะไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ส.ค.บ.) ทางบริษัทก็รับปากว่าจะทำให้เสร็จแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเหมือนเดิม 

ด้าน นายสมยศ ไชยผล ทนายความตัวแทนของผู้เสียหาย  เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้มีการรวมตัวกันผ่านกลุ่มไลน์ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 163 คน ในการทำสัญญาเป็นสัญญาแพ่ง จ้างทำสัญญาก่อสร้าง ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมที่คล้ายๆกัน คือ เมื่องานก่อสร้างได้ระยะหนึ่ง ก็จะไม่ทำงานต่อให้เสร็จจนเกิดปัญหาล่าช้าไม่มีคนงาน แต่มีการเบิกเงินไปแล้วจำนวนมาก ทั้งนี้มองว่าหากเกิดความเสียหายกับคนๆ เดียว จะเป็นความเสียหายทางแพ่งได้ แต่พฤติกรรมเหล่านี้กลับมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นความผิดปกติของการทำธุรกิจ จึงได้มีการรวมตัวมาร้องขอความเป็นธรรมกับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) 

นายสมชาย นามสมมุติ อายุ 40 ปี นักธุรกิจ ผู้เสียหายอีกราย บอกว่าในขณะนั้นต้องการสร้างบ้านสองชั้น ซึ่งไปพบกับราคาโปรโมชั่นของบริษัทแห่งนี้ ในราคา 4.8 ล้านบาท เป็นสัญญา 420 วัน แต่ก่อสร้างไปแล้วราคาที่ก่อสร้างก็สูงขึ้นเรื่อยๆเกือบ 6 ล้านบาท โดยทางบริษัทอ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการก่อสร้างผนังบ้าน ซึ่งตัวเองได้มีการจ่ายเงินไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท พบปัญหาเกิดรอยร้าว พบว่าบางจุดของบ้านมีปัญหาพยายามให้ช่างเข้าไปแก้ไขแต่ช่างกลับไม่แก้งานเดิมแต่ทาสีทับแทน จึงหวั่นต่อความปลอดภัยจึงยังไม่เข้าไปอยู่อาศัย

ผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่เดินทางมาในวันนี้จะถูกบริษัทดังกล่าวทำในพฤติกรรมเดียวกัน คือก่อสร้างไปแล้วแล้วก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ  โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ต้องการที่จะสร้างบ้านเพื่อเข้าไปอยู่อาศัย และมีความเชื่อใจในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเปิดมานานกว่า 10 ปี และมีผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊ก เกือบ 1,000,000 คน และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทนี้มีการตั้งอยู่จริงมีการจดทะเบียนถูกต้อง 

นางสาวสมหญิง(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายหญิงอีกหนึ่งรายเธอ เปิดใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตัวเองไม่มีความรู้ในการสร้างบ้านจึงได้ไปติดต่อที่บริษัทดังกล่าวเนื่องจากไว้ใจเห็นว่ามีบริษัทอยู่หลายแห่งในประเทศ เพราะต้องการสร้างบ้านให้แม่ และน้องเข้าไปอยู่อาศัยโดยเธอต้องไปกู้เงินจากทางธนาคารมาเพื่อสร้างบ้าน แต่บ้านก็สร้างไม่แล้วเสร็จ ทำให้ตัวเองต้องแบกภาระผ่อนชดใช้หนี้กับทางธนาคาร  และต้องหาเงินมาทำบ้านเอง จึงอยากฝากบอกถึงบริษัทดังกล่าวว่าอย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่น รวมถึงไม่อยากให้คนที่กำลังสร้างบ้านต้องมาเจอเรื่องราวเช่นเดียวกับตัวเอง

ทีมข่าวสยามนิวส์รายงาน