เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจยึดแพะและซากแพะรวม 119 ตัว หลังพบรถกระบะต้องสงสัย 2 คันลอบขนจากชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมขยายผลตรวจค้นพบแพะอีก 135 ตัว ในคอกพักชั่วคราวกลางป่าลึก คาดเป็นขบวนการลักลอบนำเข้าสัตว์เพื่อเลี่ยงโรคระบาด

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 00.40 น. เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ตาก ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3502 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมย ได้รับแจ้งเบาะแสจึงออกลาดตระเวนบนถนนหมายเลข 105 และสามารถสกัดจับรถกระบะต้องสงสัยได้ 2 คัน ที่ขับออกมาจากบ้านแม่ตื่น ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

เมื่อตรวจสอบพบว่ารถทั้งสองคันบรรทุก แพะเพศผู้รวม 112 ตัว และ ซากแพะ 7 ตัว รวมทั้งสิ้น 119 ตัว โดยผู้ขับขี่ทั้งสองคนไม่สามารถแสดงใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ได้ และให้การว่ามีบุคคลไม่ทราบชื่อว่าจ้างให้บรรทุกแพะจากบ้านแม่ตื่นเพื่อไปส่งที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แลกกับค่าจ้าง 3,500 บาทเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา เคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดแพะทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

จากนั้นในเวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้ขยายผลเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านแม่ตื่น และพบ คอกแพะต้องสงสัย ซึ่งสร้างอยู่กลางไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน ภายในพบแพะเพศผู้ยังมีชีวิตอยู่ 135 ตัว และตายแล้ว 1 ตัว โดยแพะทั้งหมดมีลักษณะไม่สมบูรณ์ และบางตัวมีอาการไอ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นคอกพักชั่วคราวเพื่อรอลักลอบเคลื่อนย้าย

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่และสอบถามชาวบ้าน พบว่าไม่มีเกษตรกรรายใดเลี้ยงแพะเพศผู้จำนวนมากในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้แพะส่วนใหญ่ยังมีป้ายห้อยคอสีชมพูคล้ายกับแพะที่ตรวจยึดได้จากรถกระบะคันก่อนหน้า และบางตัวมีเครื่องหมายประจำตัวที่ไม่ใช่ของประเทศไทย ทำให้เชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงยึดแพะเพศผู้ทั้งหมด 135 ตัวไว้เป็นของกลาง เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าสองยาง ดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะประกาศหาเจ้าของเป็นเวลา 45 วัน พร้อมทั้งกักกันสัตว์ทั้งหมดเพื่อตรวจโรคตามระเบียบต่อไป