ลือสะพัด! ตระกูลฮุน ส่งสัญญาณ เตรียมลี้ภัยไปจีน
ข่าวการเมือง

ลือสะพัด! ตระกูลฮุน ส่งสัญญาณ เตรียมลี้ภัยไปจีน

ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาที่ยังไม่คลี่คลาย กระแสความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในกัมพูชากลับถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข่าวลือและสัญญาณผิดปกติที่พาดพิงถึง ตระกูลฮุน ซึ่งเริ่มมีรายงานการโยกย้ายทรัพย์สินและบุคคลใกล้ชิดออกนอกประเทศ ขณะเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอำนาจและการปลดบุคคลสำคัญในกัมพูชา ยิ่งตอกย้ำกระแสความไม่มั่นคงทางการเมือง

ล่าสุด นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย เปิดเผยถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตว่า ตระกูลฮุน อาจลี้ภัยจากกัมพูชาไปยังประเทศจีน ว่า การที่ระดับผู้นำจะย้ายหนีออกไปไม่สามารถทำได้ทันที แต่ต้องมีการเตรียมการไว้ก่อน อย่างนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่อยู่ในอำนาจมาหลายสิบปี

ขณะเดียวกันจะเห็นว่าตอนนี้สถานการณ์รุมเร้าจนทำให้หวั่นไหวและอาจอยู่ไม่ได้ ถึงขั้นต้องเอารถถังและกองกำลังทหารพิเศษหรือ BHQ ไปล้อมบ้านถึงหนึ่งกองพัน ย้ายทีวีไปไว้ในบ้านเพื่อเตรียมต่อสู้ ทำให้มีปัญหา ประชาชนเกิดการต่อต้าน ทั้งนี้ก็ยังได้มีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของ นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาขึ้นมาแล้ว ทำให้นายฮุนเซนอยู่ไม่ได้เพราะเกิดความขัดแย้งในกัมพูชาเยอะจึงต้องเตรียมการลี้ภัยออกจากกัมพูชา

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในระดับนานาชาติว่า นายฮุน เซน ได้โอนย้ายทองคำส่วนตัวไปเก็บรักษาไว้ที่ประเทศจีนล่วงหน้าประมาณหนึ่งสัปดาห์ ขณะเดียวกัน บรรยากาศการเตรียมการเพื่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจในกัมพูชาก็เริ่มคึกคักมากขึ้น โดยมีรายงานว่า บุคคลใกล้ชิดของ พลเอกเตีย บัญ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลายราย บางคนถึงขั้นไม่สามารถทนแรงกดดันได้ และตัดสินใจลี้ภัยไปยังประเทศจีน

นายไพศาล ระบุว่า ในช่วงแรก นายฮุน เซน คาดหวังว่าจะสามารถทำข้อตกลงมอบผลประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทยให้กับต่างชาติ และอาศัยแรงกดดันจากต่างประเทศเพื่อบีบให้ไทยยอมทำตามข้อเรียกร้อง รวมถึงการยอมรับพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากประเทศฝั่งตะวันตกไม่ได้ให้การสนับสนุนนายฮุน เซน ส่งผลให้กระแสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลี้ภัยของนายฮุน เซน มีมากขึ้น

นายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเทศจีนมีกระแสข่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับ หากนายฮุน เซน เดินทางไปลี้ภัย โดยที่ผ่านมา ผู้ที่ลี้ภัยไปยังประเทศจีนมักจะได้พักอาศัยในบ้านพักรับรองของอดีตกษัตริย์นโรดม สีหนุวิลล์

สำหรับแนวโน้มที่จีนอาจเปลี่ยนตัวผู้นำกัมพูชาเป็นบุคคลอื่นนั้น นายไพศาล มองว่า จีนยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ทุกอย่างจึงถือเป็นเรื่องภายในของกัมพูชา ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการช่วงชิงอำนาจ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำกัมพูชา จีนมีแนวโน้มที่จะยอมรับได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นกรณีที่เปลี่ยนมาเป็น นายสม รังษี ซึ่งถูกมองว่าขัดกับผลประโยชน์ของจีนมากที่สุด

ส่วนท่าทีของจีนต่อสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ นายไพศาล ประเมินว่า จีนไม่ต้องการให้เกิดสงคราม เนื่องจากตระหนักดีว่าหากสถานการณ์บานปลาย ฝ่ายตะวันตกอาจเข้ามาแทรกแซง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อใคร เพราะจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งไทยและกัมพูชา โดยเปรียบเทียบว่า หากจีนมีเพื่อนสองประเทศ ย่อมไม่ต้องการให้เพื่อนทะเลาะกัน แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการ ทำให้จีนไม่สามารถแสดงบทบาทได้มากนัก ท่าทีของจีนจึงต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวัง

ขอบคุณข้อมูลจาก PPTV

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่คุณอาจสนใจ