เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 11 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานว่าที่ประชุมได้พิจารณา 3 เรื่องหลัก คือ 1.กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยได้แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้
2.การที่มีทุ่นระเบิดในพื้นที่อธิปไตยของไทย ถือว่ามีผลกระทบต่ออธิปไตย และ 3.รัฐบาลจะปกป้องอธิปไตย ชีวิตของคนไทย และทหารไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งนี้ ที่ประชุมสมช.มีมติระงับการปฏิบัติตามปฏิญญา Joint declaration ไว้ก่อนทั้งหมดทุกข้อ และยุติการส่งเชลยศึกให้กับกัมพูชา
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังคาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กองทัพไม่ได้คาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาอยู่แล้ว แต่ในส่วนที่กระทำเราฝ่ายเดียว เราจะดำเนินการในเขตอธิปไตยของไทย ส่วนจะยกระดับมาตรการใดๆหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยกระดับแล้ว ในเมื่อเรายุติการปฏิบัติตามปฏิญญาแล้ว และปฏิบัติการทางทหารในเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า จะมีปฏิบัติการอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าการเก็บกู้ระเบิดจะมีแผนการอย่างไร เพื่อไม่ให้กำลังพลได้รับผลกระทบ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดมี 2 ระดับ คือ ระดับหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ ซึ่งมีขีดความสามารถในการเก็บกู้ได้เอง ที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตรงนั้น เป็นพื้นที่ที่ปฏิบัติการอยู่เป็นประจำ แต่หน่วยทหารที่ปฏิบัติการในพื้นที่ สามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้
แต่การเก็บกู้ที่เป็นทางการได้มาตรฐานอย่างเต็มรูปแบบ คือ การเก็บกู้โดยหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ซึ่งกองทัพไทยเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมี 5 พื้นที่ที่หน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะเข้าไปเก็บกู้ ปัจจุบันเข้าปฏิบัติงานแล้ว 4 พื้นที่ เหลือ 1 พื้นที่ที่กัมพูชายังไม่ตอบรับ หลังจากนี้พื้นที่ที่ 5 จะเข้าเก็บกู้เลย
ส่วนจะแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างไร เช่น กรณีล่าสุดที่มีการแอบมารื้อรั้วลวดหนามแล้วเข้ามาวางทุ่นระเบิดฝั่งไทย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอไม่บอกรายละเอียด แต่มีกฎใช้กำลังอยู่ว่าเข้ามาทำอะไร ซึ่งจะมีขั้นตอนการเตือน การยิง จากอาวุธเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าหลังจากนี้การปฏิบัติการทางทหาร ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม สมช. ให้ปฏิบัติการได้ตามสถานการณ์
ส่วนจะมีการเจรจากับกัมพูชาอีกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีจากตน และจากกระทรวงกลาโหม ไม่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) แต่การพูดคุยระหว่างประเทศมีกระบวนการสากลอยู่
ด้าน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการละเมิดปฏิญญาไทย-กัมพูชา ท่าทีของเราคือการระงับการปฏิบัติตามปฏิญญา แต่ส่วนไหนที่เราดำเนินการฝ่ายเดียว เช่น การเก็บกู้ทุ่นระเบิดก็จะดำเนินการต่อ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งตนได้คุยกับ นายปรัก สุคน รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกัมพูชาแล้ว และบอกไปว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการละเมิดสิ่งที่ตกลงกันไว้
รวมถึงชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ที่เป็นพยานว่าเหตุใดเราต้องระงับการดำเนินการตามปฏิญญา รวมถึงชี้แจงข้อเท็จจริงไปที่ประชาคมโลก โดยประสานกองทัพไทย และกองทัพบก เพื่อนำข้อเท็จจริงต่างๆ ไปชี้แจงเพื่อให้เกิดความหนักแน่น และชอบธรรม
ทั้งนี้ หากต้องการให้ปฏิญญากลับไปสู่สิ่งที่ควรจะเป็น จำเป็นที่ฝ่ายกัมพูชาต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การแสดงความเสียใจ การตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ และมีมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เมื่อถามว่าหากกัมพูชาไม่รับผิดชอบจะมีมาตรการตอบโต้เพิ่มเติมหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เราระงับการปฏิบัติตามปฏิญญา
เมื่อถามว่าเราประท้วงมาตลอดครั้งนี้ก็ยังประท้วงอีกแล้วจะได้อะไรกลับมา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรายังคงต้องยืนยันประท้วง เพราะเป็นการละเมิดข้อตกลงที่เรามีอยู่ และให้ประชาคมโลกเกิดความเข้าใจเหตุที่เราต้องระงับปฏิญญาทุกข้อที่ลงนามไว้ เช่น การถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ เว้นแต่เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่เราดำเนินการของเราเองได้ ไม่ใช่การประท้วงอย่างเดียว และการประท้วงที่ว่าถือเป็นการประณามในคราวเดียวกันด้วย
เมื่อถามว่ามาตรการที่ออกมาถือว่าเด็ดขาดสูงสุดแล้วใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูท่าทีการตอบสนองของกัมพูชา เราต้องยกระดับความเด็ดขาดของเราได้ เมื่อถามว่ากัมพูชาชี้แจงว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่า นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เขก็แสดงท่าทีเช่นนั้นมา แต่เราคิดว่าสิ่งที่ชี้แจงมาสำหรับประเทศไทยยังไม่เพียงพอ และยังไม่พอใจ จากนี้ต้องรอดูว่ากัมพูชาจะมีท่าทีอย่างไร ต่อการตัดสินใจของเราในครั้งนี้เป็นขั้นตอน ส่วนการเจรจาเรายังไม่พูดถึง เพระไม่มีพื้นที่ในการพูดคุย
เมื่อถามว่าทางกัมพูชาแสดงท่าทีกังวลต่อการระงับปฏิญญามาแล้ว นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีท่าทีชัดเจนที่สั่งระงับ และดำเนินการให้เขาแสดงความรับผิดชอบ รอดูท่าทีของเราแล้วกัน ส่วนการปักหมุดชั่วคราวหลังจากนี้ก็ไม่มี เพราะเราระงับทุกการดำเนินการ