เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้พิจารณา 3 ประเด็นหลัก หลังเกิดเหตุทุ่นระเบิดในเขตแดนไทย จนส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ

พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และรัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย ขณะเดียวกัน ที่ประชุม สมช. มีมติ ระงับการปฏิบัติตามปฏิญญา Joint Declaration ทุกข้อ และ ยุติการส่งเชลยศึกคืนให้กัมพูชา ทันที
พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชาแถลงการณ์ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่า ว่า ไปฟังกัมพูชาทำไม ฟังพี่สิ และเมื่อถามย้ำว่า หากเป็นทุ่นระเบิดใหม่จะดำเนินการเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ของใหม่ครับ
เมื่อถูกถามว่ายังสามารถคาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ตอบว่า กองทัพไม่ได้คาดหวังความจริงใจอยู่แล้ว สิ่งที่ไทยทำต่อไปคือดำเนินมาตรการฝ่ายเดียวในเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งถือเป็นการยกระดับสถานการณ์แล้ว ส่วนรายละเอียดปฏิบัติการทางทหารไม่สามารถเปิดเผยได้
ด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รมว.กลาโหมชี้แจงว่า มี 2 ระดับ ได้แก่ หน่วยทหารในพื้นที่ที่สามารถเก็บกู้ได้เอง และการเก็บกู้ในมาตรฐานสากลโดยหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 4 จาก 5 พื้นที่ เหลืออีก 1 พื้นที่ที่กัมพูชายังไม่ตอบรับ แต่หลังจากนี้ไทยจะเดินหน้าเก็บกู้ทันที ส่วนกรณีมีผู้ลักลอบรื้อรั้วลวดหนามและวางทุ่นระเบิดฝั่งไทย พล.อ.ณัฐพลระบุว่า มีกฎการใช้กำลังชัดเจน ตั้งแต่การเตือน ไปจนถึงการใช้อาวุธเบาและอาวุธหนัก ยืนยันว่าทุกปฏิบัติการได้รับอนุมัติจาก สมช. แล้ว

ส่วนจะมีการเจรจากับกัมพูชาอีกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีจากตน และจากกระทรวงกลาโหม ไม่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) แต่การพูดคุยระหว่างประเทศมีกระบวนการสากลอยู่
ด้านนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดปฏิญญาไทย-กัมพูชา จึงมีคำสั่ง ระงับปฏิบัติตามปฏิญญาทั้งหมด ยกเว้นงานด้านเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ไทยสามารถทำได้เอง พร้อมเตรียมประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใต้อนุสัญญาออตตาวา
นายสีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้หารือกับนายปรัก สุคน รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชาแล้ว รวมถึงแจ้งต่อสหรัฐฯ และมาเลเซียในฐานะพยาน พร้อมประสานกองทัพไทยเพื่อรวบรวมข้อมูลชี้แจงต่อประชาคมโลกให้เกิดความชอบธรรม
ทั้งนี้ หากต้องการให้ความร่วมมือกลับไปเป็นปกติ กัมพูชาต้อง แสดงความรับผิดชอบ เช่น การยอมรับเหตุการณ์ แสดงความเสียใจ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และออกมาตรการไม่ให้เกิดซ้ำ เมื่อถูกถามว่าถือเป็นมาตรการสูงสุดแล้วหรือไม่ รมว.ต่างประเทศตอบว่า ขึ้นอยู่กับท่าทีตอบสนองของกัมพูชา หากไม่เปลี่ยนแปลง ไทยพร้อมยกระดับต่อ
สำหรับคำชี้แจงของกัมพูชาที่อ้างว่าเป็น ทุ่นระเบิดเก่า ไทยระบุว่า ไม่เพียงพอและยังไม่พอใจ และในเวลานี้ไม่มีการเจรจาใด ๆ ไม่มีการปักหมุดชั่วคราว หรือการประชุมร่วมใด ๆ จนกว่ากัมพูชาจะแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม
ฝ่ายไทยย้ำชัดว่า รัฐบาลจะปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนและทหารไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งทางการทูตและการทหารในกรอบกฎหมายสากล