เกิดเหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อ ประธานาธิบดี อี แจ มยอง แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ มีคำสั่งให้ กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและใช้ทุกความพยายามในการรับมือกับปัญหา การลักพาตัวและการควบคุมตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้าน นายโช ฮยอน (Cho Hyun) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้ เรียกตัวนายคูน พอน รัตตานัก (Khuon Phon Rattanak) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เข้าพบเป็นการด่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความกังวลอย่างรุนแรง ต่อสถานการณ์ดังกล่าว หลังพบว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก ตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงและขบวนการค้ามนุษย์ที่อ้างการจ้างงานในกัมพูชา ซึ่งกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวที่สร้างความตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้ทั่วประเทศ คือกรณีการเสียชีวิตของ นักศึกษาเกาหลีใต้รายหนึ่ง ในกัมพูชาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเขาถูกลักพาตัวและ ถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมเรียกร้องเงินกว่า 50 ล้านวอน โดยแก๊งค์อาชญากรรมท้องถิ่น และมีรายงานสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากหัวใจวายอันเป็นผลมาจากการทรมานอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรี โช ฮยอน ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลอย่างยิ่งยวดต่อกรณีการฉ้อโกงงานและการกักขังหน่วงเหนี่ยวที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองเกาหลีใต้ในกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมเพื่อ กำจัดเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ อย่างสิ้นซาก และยกระดับความร่วมมือด้านตำรวจเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียอันน่าสลดใจอีก
ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากถูกล่อลวงด้วยข้อเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูง ก่อนจะถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานในศูนย์ปฏิบัติการ สแกมเมอร์ ในกัมพูชา ซึ่งองค์กร Amnesty International รายงานว่ามีการปฏิบัติมิชอบเกิดขึ้นในระดับที่รุนแรง และรัฐบาลกัมพูชาถูกกล่าวหาว่า ยินยอม และ สมรู้ร่วมคิด ในการแสวงหาประโยชน์จากแรงงานเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวทำให้กรุงโซลต้องออกคำแนะนำการเดินทางพิเศษสำหรับกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เพื่อเตือนภัยพลเมืองจากภัยร้ายที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงนี้